'กมธ.ตปท.' ชงผลศึกษาMOU44 ให้หน่วยงานพิจารณา ไม่มีธงยกเลิก

'กมธ.ตปท.' ชงผลศึกษาMOU44 ให้หน่วยงานพิจารณา ไม่มีธงยกเลิก

กมธ.ต่างประเทศ เห็นชอบรายงานศึกษา MOU44 ชงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ย้ำเป็นการศึกษาข้อดี-ข้อเสีย ไม่ฟันธงยกเลิก

ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี  น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็น ประธาน กมธ. ได้พิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในหลายทวีปทับซ้อน (MOU44)ของคณะอนุ กมธ. ฯ ที่มีนายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย เป็นประธานอนุกมธ.

โดย น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า รายงานของอนุกมธ.ฯ​ดังกล่าวใช้เวลาศึกษา 6 เดือน ศึกษาเฉพาะเอ็มโอยู 2544 ส่วนของพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางทะเล  และมติของกมธ. เห็นว่าสมควรให้ส่งรายงานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับความเห็นชอบในบทสรุป โดยใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะส่งไปยังหน่วยงานต่างๆหรือเสนอไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร 

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวถึงการประชามติเอ็มโอยู 2543 และ เอ็มโอยู 2544 ด้วยว่าถ้ามีเหตุผลในการยกเลิกสามารถทำได้ แต่การโยนไปทำประชามติไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด อีกทั้งการยกเลิกฝ่ายเดียวไม่สามารถทำได้ และต้องมีระยะเวลาในการขอยกเลิกอย่างน้อย 1 ปี เป็นการแสดงเจตจำนง

"การไปทำประชาชมติเลยจะเกิดคำถามตามมา เกี่ยวกับในหลายมิติทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ บริหารทรัพยากรทางธรรมชาติ อธิปไตย ความมั่นคง ทางทหาร การเมือง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ประชาชน จะต้องมาตอบใช่หรือไม่ใช่" น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

ทางด้านนายธนาธร กล่าวถึงสาระสำคัญของรายงานผลการศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในหลายทวีปทับซ้อน  ว่า ได้ศึกษาไว้ 2 กรณี คือ กรณีมีเอ็มโอยู2544 รัฐจะต้องดำเนินการอย่างไร และกรณีที่ไม่มีเอ็มโอยู 2544จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะต้องใช้เวลาเท่าใดในการยกเลิก ทั้งนี้อนุกมธ.ฯ ไม่ได้เสนอแนะว่าสมควรยกเลิกหรือไม่ แต่จะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อให้บุคคลประกอบการตัดสินใจ 

"เอ็มโอยู2544 เป็นกรอบให้คู่ขัดแย้งเจรจากันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลอ่าวไทย โดยกำหนดไว้ว่าการเจรจาต้องพูดคุยทั้งเรื่องเขตแดนทางทะเล และการใช้ทรัพยากรทางทะเลไปพร้อมๆกัน ไม่สามารถคุยแบ่งปันผลประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลก่อน แล้วค่อยคุยเขตแดนทางทะเลได้  ส่วนข้อดีของเอ็มโอยู2544 จะทำให้มีกรอบชัดเจนว่าพูดคุยประเด็นใด และทำอะไรก่อน-หลัง ในทางตรงกันข้าม หากยกเลิก จะทำให้ต่างฝ่ายต่างคุยในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ไม่มีตัวกลางในการเจรจา" นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลจะให้ทำประชามติยกเลิกหรือไม่ยกเลิก เอ็มโอยู  นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยเพราะเป็นเรื่องซับซ้อน และเป็นเรื่องทางเทคนิคค่อนข้างมาก บางส่วนเป็นความลับทางราชการเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ จึงไม่ควรผลักภาระให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ รัฐบาลมีหน้าที่ตัดสินใจแทนประชาชนได้ รัฐบาลสามารถยกเลิกก็ได้ เพียงแต่ยกเลิกฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องไปพูดคุยกับเขา เพราะมีขั้นตอนในการยกเลิกอยู่