สว.สำรองร้องศาลให้ 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ - บี้ กกต.ส่งคดีฮั้ว

สว.สำรองร้องศาลให้ 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ - บี้ กกต.ส่งคดีฮั้ว

กลุ่ม สว.สำรอง ร้องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ให้ 136 สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ บี้ กกต.ส่งสำนวนสอบ 'คดีฮั้ว สว.' มาที่ศาลใน 7 วัน - ให้กำลังใจ 'นันทนา' หลังโดนโหวตฝ่าฝืนจริยธรรม

KEY

POINTS

  • กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ขอให้ถอดถอนและสั่งให้ สว. 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่
  • กล่าวหาว่า กกต. ดำเนินการสอบสวนคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ล่าช้าเกินกว่ากรอบเวลา 1 ปีตามที่ระเบียบกำหนดไว้
  • เรียกร้องให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ กกต. สรุปและส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้ศาลพิจารณาภายใน 7 วัน
  • เชื่อว่าการยื้อเวลาของ กกต. มีเจตนาเพื่อให้ สว. ชุดปัจจุบันสามารถลงมติเลือกบุคคลในองค์กรอิสระได้ จึงจำเป็นต้องขอให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2568 ที่ศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินใน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมกลุ่มตัวแทน สว.สำรอง 10 คน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยและมีคำสั่ง ถอดถอนสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 136 คน รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า วันนี้ตนและตัวแทน สว.สำรองเดินทางเข้ามายื่นคำร้องต่อศาล เนื่องจากที่ผ่านมา กกต.ใช้เวลาค่อนข้างนานในการพิจารณาคดีการ ฮั้ว สว. เกินกว่าที่กำหนด จากการประกาศผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากนั้นก็ร้องคัดค้านมาหลายครั้ง รวมถึง นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็แถลงในวันประกาศผลเลือกตั้งด้วยว่ามีการร้องคัดค้าน และการสอบสวนจำเป็นต้องมีการรวบรวมข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามารวบรวมหลักฐาน หลังจากนั้นก็มีการสอบสวนพยาน คือ กลุ่ม สว.สำรอง อย่างพวกตนเรื่อยมา

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า แต่พอไปติดตามความคืบหน้าก็ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นมือเข้ามาดำเนินการในเรื่องคดีอั้งยี่ ฟอกเงิน และการฮั้ว สว.เข้ามาให้กับทาง กกต.ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจึงมีการตั้งคณะสอบสวนชุดที่ 26 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม กกต.ชุดสืบสวนชุดนี้จึงส่งหลักฐานให้กับ กกต.หลังจากนั้น กกต.ได้ดำเนินการตรวจสำนวนหลักฐานอีกประมาณ 60 วัน และส่งให้คณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่จนตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยขึ้นมาอีกชุดและดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ถ้าว่ากันตามระเบียบการไต่สวนของ กกต.ที่ออกไว้และระบุว่าการดำเนินการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นช้าที่สุดภายใน 1 ปี แต่ขณะนี้เรื่องผ่านมา 1 ปี กับอีก 4 เดือนแล้ว ทางคณะ สว.สำรอง ก็ได้มีการไปทวงถามความคืบหน้าเพื่อให้ทาง กกต.ได้ชี้แจงว่ามีส่วนไหนติดขัดหรือล่าช้า แต่ทาง กกต.ไม่ได้บอกอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่บอกแค่ว่ามีการดำเนินการ 4 ขั้นตอน ในกรอบเวลาของ กกต.ในส่วนนี้กลุ่ม สว.สำรอง จึงเห็นว่า กกต.มีการยื้อเวลาเรื่องนี้แม้กระทั่งการตั้งชุดวินิจฉัยที่ผ่านมาระยะเวลา 1 เดือนเศษ กลับไม่มีการประชุมหารือเรื่องนี้เลย ตนจึงสงสัยว่าจะตั้งชุดวินิจฉัยดังกล่าวเพื่อดึงเวลาหรือเร่งรัดอะไรหรือไม่ จึงมีคณะ สว.สำรอง อีกกลุ่มหนึ่งเดินทางไปฟ้อง กกต.ในคดีอาญามาตรา 157 และมาตรา 172 ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ กกต.กลับไม่ได้มีท่าทีจะเร่งรัดคดีดังกล่าวแต่อย่างใด

พล.ต.ท.คำรบ มองว่า กกต.น่าจะกระทำผิดไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับที่ กกต.กำหนดไว้เอง และกลุ่ม สว.สำรอง ได้เห็นว่า กกต.ได้กระทำผิดจึงใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งภายใน 3 วัน และอยากเรียกร้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมเพื่อให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาสั่งการไปยัง กกต.ว่าให้สรุปและนำสำนวนทั้งหมดส่งมายังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ภายใน 7 วัน

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้เจตนาของการยื้อเวลาเพื่อส่งให้ สว.ในสภาใช้สิทธิ์ในการเลือกหรือเห็นชอบองค์กรอิสระต่างๆ ตนและกลุ่ม สว.สำรอง จึงจะขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งขอให้ สว.กลุ่มนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับการที่ รศ.นันทนา นันทวโรภาส สว.ถูกกลุ่ม สว.โหวตฝ่าฝืนจริยะธรรมและส่งเรื่องให้กับ ปปช. พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ในเรื่องจริยธรรมมองว่าเป็นเรื่องนามธรรม บางอย่างอาจจะเป็นสีดำมากกว่า แต่อาจจะมองว่าไม่ผิดจริยธรรม แต่กรณีของ รศ.นันทนา อาจจะมีสีดำจุดเล็ก ๆ ขึ้นบนสีขาว และทางกลุ่มของตนมองว่ากรณีนี้ รศ.นันทนา ได้พยายามต่อสู้และมีเจตนารมณ์หลายอย่างที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้กลุ่มของตนจึงได้เข้าไปให้กำลังใจเจ้าตัว เพราะเชื่อว่า รศ.นันทนา มีความสุจริตใจและต้องการหาความจริง ตนจึงหวังว่าเจ้าตัวจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรมจาก ปปช.