​'พล.อ.ณัฐพล' ชี้ ไทย​ -​กัมพูชา​ วางไทม์ไลน์ 3เดือน บรรลุ 3 เรื่อง

​'พล.อ.ณัฐพล' ชี้ ไทย​ -​กัมพูชา​ วางไทม์ไลน์ 3เดือน บรรลุ 3 เรื่อง

"พล.อ.ณัฐพล" ชี้​ ไทย​ -​กัมพูชา​ ดีเดย์​ถอนอาวุธเชิงสัญลักษณ์​ เป็นจุดเริ่ม​ต้น วางไทม์ไลน์​ 6 สัปดาห์​ 3 เฟส​ กำหนดกรอบ​ AOT ทำงาน​ 3 เดือน​ บรรลุ​ 3 เรื่อง​ ลุยพิสูจน์​ปราสาทตาควายดงทุ่นระเบิด​

28 ต.ค.เวลา​ 11.50 น.​ พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนไทย​ - กัมพูชา ว่าหากนับเวลา ตั้งแต่มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ หรือ GBC​ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา​ และในวันที่ 26 ตุลาคม​ นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามปฏิญญาเพื่อนำไปสู่สันติภาพ​ ช่วงค่ำของวันที่ 26 ตุลาคม​ ก็มีการเริ่มถอนอาวุธ​ ซึ่งอาวุธของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา.ที่ถอนออกมาไม่เหมือนกัน

ซึ่งขณะนี้ กองทัพภาคที่​ 2​ อยู่ระหว่างการพูดคุยในรายละเอียดกับกัมพูชา​ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ากระทรวงกลาโหมยึดมั่นในอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ จะไม่ยอมให้ไทยเสียศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าไทยก็มีการถอนอาวุธในช่วงค่ำวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาใช่หรือไม่เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พลเอกณัฐพลยอมรับว่า​ ใช่

ส่วน BM 21 ที่ไทยคาดหวังให้กัมพูชาถอนออกไปเนื่องจากเป็นอาวุธที่อันตรายนั้น พลเอกณัฐพล​ ระบุว่า ถือเป็นสิ่งที่อยากให้กัมพูชาได้ดำเนินการถอน ซึ่งตามแผนการปฏิบัติการ ได้กำหนดกรอบเวลา เอาไว้ 6 สัปดาห์ เดือนครึ่งประมาณ 1 เดือนครึ่ง หรืออาจจะมากกว่านั้น และกัมพูชาก็เห็นพร้อง ซึ่งจะมีอยู่ 3 เฟส คือเริ่มทันทีในคืนวันที่ 26 ตุลาคม 2568​ ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มภายใน 3 สัปดาห์​  และเฟสที่​ 3 คือ​ สัปดาห์ที่​ 6  ซึ่งจะมีการแบ่งการถอนอาวุธเป็นล็อต​ ส่วนแต่ละล็อตจะถอนอาวุธอะไรบ้างนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุย และต้องถอนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเฟสไหนก็ตาม

เมื่อถามถึงการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนหรือ AOT ใช้กรอบการทำงานระยะเวลาเท่าใด พลเอกณัฐพล ชี้แจงว่า ประมาณ 3 เดือน และสามารถต่อได้อีก​ ซึ่งคาดว่าในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถเห็นผลได้ใน 3 เรื่อง ทั้งถอนอาวุธหนัก​ เก็บกู้วัตถุระเบิด​ตามแนวชายแดน ในส่วนของบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว​ อำเภอโคกสูง​ จังหวัดสระแก้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ​ในวันที่ 17 ธันวาคม​ 2568​  รวมถึงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มทำอยู่ ซึ่งก็เริ่มทำแผนการดำเนินการ​ ส่งไปยังกัมพูชา​  ก่อนย้ำว่าวันที่​ 26 ตุลาคม​ที่ผ่านมา ถือเป็นวันดีเดย์ อาวุธอะไรที่เริ่มถอนได้ก็ให้ถอน แม้จะเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้น เราก็ติดตามความคืบหน้าไป ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ขอนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยมีพลเอกอุกฤษฏ์​ บุญตานนท์​ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน​ และมีหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ​ สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ และกระทรวงมหาดไทยร่วม ขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนสบายใจ

ขณะเดียวกันพลเอกณัฐพล​ ยังระบุอีกว่า​ เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดหากอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้เก็บกู้ทุ่นระเบิด

เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าฝ่ายกัมพูชาจะเก็บคู่ทุ่นระเบิดในพื้นที่ เช่นในพื้นที่ปราสาทตาควายและพื้นที่โดยรอบ พลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ คณะAOT ต้องลงไปดู ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ว่ามีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจริงหรือไม่ โดยเบื้องต้นเริ่ม 13 พื้นที่