คุก 2 ปี 'ใบปอ ทะลุวัง' คดี ม.112 ศาลให้ประกัน 1 แสน ไร้เงื่อนไข

คุก 'ใบปอ ทะลุวัง' 3 ปี คดี ม.112 ปมทำโพลการใช้อำนาจสถาบันฯ ศาลปรานีเป็น นศ. ทำประโยชน์ให้สังคม ลดโทษ 2 ปีไม่รอลงอาญา อนุญาต 1 แสนประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ แบบไม่มีเงื่อนไข
KEY
POINTS
- ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "ใบปอ ทะลุวัง" 2 ปี ในคดี ม.112 จากกรณีทำโพลสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันฯ
- ศาลลดโทษจาก 3 ปี เหลือ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นนักศึกษาและทำประโยชน์ต่อสังคม
- ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ 1 แสนบาท เพื่อขอประกันตัวใบปอสำหรับสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี ดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1788/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ "ใบปอ" น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม "เมนู" (ปัจจุบันหลบหนี) และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ "บุ้ง" (เสียชีวิต) แกนนำกลุ่มทะลุวัง เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ตามลำดับในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
กรณีเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 พวกจำเลยร่วมกันทำโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนว่า "เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย" ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตจนถึงสนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม. จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว โดยในวันนี้มีเพียง น.ส.ณัฐนิช เพียงคนเดียว ที่เดินทางเข้ามาฟังคำพิพากษา และกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว ฝ่ายพยานโจทก์มีเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจากหลายพื้นที่ในความรับผิดชอบ 7 ปาก เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า แม้ว่าจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวนในเพจทะลุวัง ให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมและแสดงความคิดเห็นตามสถานีรถไฟฟ้า เกี่ยวกับอำนาจของสถาบัน ส่วนที่จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ดูแลเพจดังกล่าวและโพสต์ข้อความ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับพวกที่เดินทางไปทำกิจกรรมและสอบถามความคิดเห็นของประชาชนกับกลุ่มทะลุวัง โดยมีสติ๊กเกอร์แจกให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมนำไปติดใต้ข้อความเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรม ซึ่งย่อมเล็งเห็นผลกับพวกที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยกับการใช้อำนาจ
พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง ส่วนคำเบิกความของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ เห็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ฐานดูหมิ่นสถาบัน พิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุน้อย เป็นนักศึกษา และทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมโดยการสอนหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา จิตอาสาสภากาชาดไทย และบริจาคดวงตาให้กับประชาชน เห็นสมควรลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา
ภายหลังจากศาลพิพากษา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และทนายความของจำเลย ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ จำนวน 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอาญา พิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ณัฐนิช ด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท โดยไม่มีเงื่อนไข







