เลขา กฤษฎีกา ยัน เอ็มโอยู แร่หายาก ครม.ดูละเอียด พร้อมรับข้อกังวลพิจารณา

เลขา กฤษฎีกา ยัน เอ็มโอยู แร่หายาก ครม.ดูละเอียด พร้อมรับข้อกังวลพิจารณา

เลขา กฤษฎีกา ยัน เอ็มโอยู แร่หายาก ผ่าน ครม.นัดพิเศษ ย้ำ ดูละเอียด รอบคอบ ไร้ผลผูกมัด ต่างฝ่ายต่างตอบแทน พร้อมรับข้อกังวลพิจารณา

เมื่อเวลา​ 09.05 น.​ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา​ กล่าวถึงกรณีการลงนาม บันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนา ของห่วงโซ่อุปทานของแร่สำคัญ แร่แรร์เอิร์ธ ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา​ จะเป็นข้อผูกมัดหรือไม่​ ว่า​ จาก กรณีที่ เว็บไซต์ทำเนียบขาวเผยแพร่รายละเอียด ของ MOU ดังกล่าว ไม่ผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฉะนั้นไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ฉะนั้นก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่มีอะไรมากมาย และเป็นไปตามที่ นาย อนุทิน​ ชาญวีรกูล​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์ไว้

ส่วนจะเป็นหนึ่งในการที่สหรัฐฯใช้เป็นมาตรการกดดันไทยหรือไม่​ เลขากฤษฎีการะบุว่า ความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่ เพราะคล้ายกับการตกลงกัน​ เพราะเป็นลักษณะการคล้ายว่าตกลงกัน อย่างไรในเบื้องต้น​ และไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ​ พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไทย​ และไม่ใช่แค่สหรัฐฯมาลงทุนที่ไทยอย่างเดียว ไผ่ก็มีโอกาสไปลงทุนที่สหรัฐฯ ด้วยเหมือนกัน หากมีความสามารถ ฉะนั้นเป็นเหมือนการต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน

ส่วนรายละเอียดก็ต้องไปว่ากัน ซึ่งก็ต้องว่ากันตามกฎหมายแร่ของไทย ที่ระบุไว้ว่าจะต้องมีการเปิดประมูลและการแข่งขัน อย่างเป็นธรรม พร้อมยืนยันว่ากฎหมายไทยครอบคลุมในเรื่องนี้ รวมถึงข้อกังวลนี้จะมีการรับไว้พิจารณา แต่ในทางปฏิบัติจะพยายามไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งการลง MOU ในครั้งนี้ก็คล้ายกับที่ไทยไปลงนามกับประเทศอื่น และเขาก็ไม่ได้ทำกับเราประเทศเดียว ทั้งกัมพูชามาเลเซีย

เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวสามารถยกเลิกได้ใช่หรือไม่ เลขาฯกฤษฎีการะบุว่า สามารถยกเลิกได้ เพราะมีข้อยกเลิกไว้อยู่แล้ว

เพื่อถามว่า MOU ดังกล่าวเคยนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เลขาฯกฤษฎีกา ยอมรับว่าเคยนำเข้าพิจารณา ในที่ประชุมครมนัดพิเศษฯแล้ว​ ซึ่งมีการพิจารณากันอย่างละเอียด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ช่วยดูในเรื่องของถ้อยคำ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนกฤษฎีกาก็ดูในเรื่องกฎหมายเพราะฉะนั้นเราดูครบในทุกมิติ

เมื่อถามว่าหากต้องการยกเลิก MOU ดังกล่าวจะต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายหรือไม่ นายปกรณ์​ ระบุว่ามีรายละเอียดในการยกเลิกไว้ พร้อมขออย่าดูรายละเอียดโดยใช้ AI สรุป เนื่องจากไม่ตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เคยทดลองแล้ว​ ซึ่งใน MOU ดังกล่าวไม่ได้ใช้คำว่า​ "คู่สัญญา" แต่ใช้ว่าว่า​ "ความร่วมมือ" ฉะนั้นเป็นความเท่าเทียมกันในการตกลงของทั้งสองฝ่าย พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายภายใน

ขณะเดียวกัน นายปกรณ์ ยังระบุอีกว่าข้อก่อนสุดท้ายใน MOU ระบุไว้ชัดว่า หากจะทำอะไรให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ ภายในของแต่ละฝ่าย พร้อมยืนยันว่าข้อกังวลที่มีอยู่จะต้องรับไว้ และขออย่ากังวล เนื่องจากไม่ใช่หนังสือสัญญาที่มีข้อผูกมัด