'อนุทิน' อัด 'เซ็งกระบ๊วย' กล่าวหา รวมหัว'เนวิน' เอี่ยวสแกมเมอร์

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการปราบปรามสแกมเมอร์ หลังจากที่นิวยอร์คไทมส์ ออกมาระบุไทยก็เป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์อีกประเทศหนึ่ง ว่า เรื่องนี้มีคนตรวจสอบอยู่แล้ว

ส่วนที่มีการทะลักเข้ามาทั้งฝั่งกัมพูชา ฝั่งเมียนมา ในรายละเอียดต้องทำอยู่แล้วทั้งป้องกัน และปราบปรามอยู่แล้ว คนที่ทำงานเขาก็ทำอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้ทำ ก็อ่านข่าวมาแล้วขยายผล ทำให้ปั่นป่วนวุ่นวาย

ยืนยันว่ามาตรการเราทำมาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เรื่องเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป้าหมายที่ได้มอบให้ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คือ ต้องมีความล้ำหน้ากว่าฝ่ายกระทำความผิดอยู่เสมอ ไม่ใช่เป็นโปลิสจับขโมยเพื่อแสวงหาความร่วมมือให้ได้มากที่สุด

นายอนุทินยังกล่าวว่า ล่าสุดที่พบกับทูตจากสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการพูดคุยว่าจะ เร่งให้มีผู้ชำนาญการมาร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้กระทำผิดในเรื่องนี้ และล่าสุดได้ทำให้เห็นชัดเจนในรัฐบาลชุดนี้แล้ว คือ การลงนามถอนสัญชาติ นายพัด สุภาภา หรือ ลียง พัด ไม่ให้ถือสัญชาติไทยอีกต่อไป เพราะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย

ถามย้ำว่าหลังจากนี้จะได้เห็นการถอนสัญชาติเรื่อยๆหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ทำให้เห็นแล้ว ว่า สิ่งที่ไม่เคยทำมาในอดีต รัฐบาลนี้ได้ทำทั้งที่พึ่งเข้ามาทำงานเพียง 2 - 3 สัปดาห์ คนที่ทำไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนี้ เพราะเกี่ยวข้องกับความลับทางราชการ กลยุทธ์วิธีการต่าง ๆ ถ้าพูดฝ่ายตรงข้ามก็จะหาวิธีมาแก้ไข และจะทำให้กระบวนการปราบปราม หรือ การดำเนินการอะไรต่างๆ ไม่เสร็จสักที

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุมีนักการเมืองอักษรย่อ “ช.” ที่เกี่ยวกับกับ แก๊งสแกมเมอร์ ได้มีการตรวจสอบภายในพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โชคดีที่ท่านไม่ได้บอกเป็นอักษรนามสกุล ถ้านามสกุล ช.ช้าง ก็คงเป็นตนเอง โชคดีที่บอกเป็นชื่อ .

ยืนยันว่าเรื่องการตรวจสอบ ไม่ใช่จะตรวจสอบจากการที่ได้ยินใครมา แต่เรามีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) รวมถึงกลไกของรัฐตรวจสอบอยู่แล้ว

ขณะที่กรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ออกมาทักท้วงว่า การตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จะดูผิดกับงานหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะไม่ได้เป็นคนทำงาน ถ้าอยากจะทำเรื่องนั้น ก็มาบริหารประเทศก่อน และทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แต่วิธีการทำงานของตนก็ทำแบบนี้

ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ที่ผ่านมามีการยึดทรัพย์และถอนสัญชาติไปแล้ว สิ่งที่ผมเองทำมาตลอด เรื่องเหล่านี้ไม่ได้จบภายในวัน หรือสองวัน และ 4 เดือนก็ไม่จบ แต่จะขัดขวาง และปราบปรามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ที่มารับช่วงต่อในการปราบสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นรัฐบาลกดดันทุกวัน ไม่ถูกกดดันเรื่องนี้ ก็ถูกกดดันเรื่องอื่น ต้องทำงานภายใต้ความกดดันเป็นเรื่องปกติ ถ้ามั่นใจ ว่า ได้ดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้องแล้วก็ทำต่อไป

"สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์เราก็รับฟังไว้ อันไหนเข้าท่าก็โอเคแต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าท่า ที่เข้าท่าเราก็รับฟังและมาทำตลอด อย่างข้อสรุปอะไรต่างๆมาบอกว่ายังปราบไม่ได้สักทีสงสัย อนุทิน เนวิน (ชิดชอบ) เป็นเจ้าของสแกมเมอร์เอง บทสรุปที่เซ็งกระบ๊วยอย่างนี้มันไม่ได้"