ศาลยกฟ้อง 'ธัญญ์วาริน' คดีหุ้นสื่อ ชี้นำสืบไม่ได้ว่าเจตนาทำผิด

ศาลยกฟ้อง 'ธัญญ์วาริน' คดีหุ้นสื่อ ชี้นำสืบไม่ได้ว่าเจตนาทำผิด

ศาลอาญายกฟ้อง 'ธัญญ์วาริน' อดีต สส.อนาคตใหม่ ปมถือหุ้นสื่อ ชี้โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทำผิด เจ้าตัวโล่งใจ อุบกลับมาลง สส.อีกรอบ อาจขอทำงานเบื้องหลัง

KEY

POINTS

  • ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ในคดีอาญาข้อหาถือครองหุ้นสื่อ
  • ศาลชี้ว่าบริษัทของนายธัญญ์วารินเป็นเพียงบริษัทโปรดักชั่นรับจ้างผลิต ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชน และไม่มีช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของตนเอง
  • เหตุผลสำคัญในการยกฟ้องคือ อัยการโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิด ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 714 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำอ.1400/2567 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา4 เป็นโจทก์ฟ้องนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ นักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นจำเลยในความผิดฐานรู้อยู่แล้วว่าตน ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส.หรือเป็นผู้ต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้งหรือยินยอมให้พรรคการเมือง อื่นเสนอชื่อในการสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ

กรณีจำเลยได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ โดยไม่มีสิทธิ์ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้ถือครองหุ้นในบริษัท เฮดอัพ โปรดักชั่น และบริษํท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน โดยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรค อนค. ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ สส.ของนายธัญญ์วาริน ผู้ถูกร้องสิ้นสุด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (3) นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 2562 ในวันยื่นสมัครรับเลือกตั้ง จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าบริษัทของจำเลยทั้งสองบริษัทเป็นโปรดักชั่น รับจ้างผลิตไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน โดยรับจ้างผลิตละครโฆษณาหรือตาม ที่ผู้ว่าจ้าง กำหนดมา และไม่มีช่องทางเผยแพร่เพราะผลงานเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งจำเลยยืนยันว่า เป็นบริษัทร้างไม่มีรายได้มาตั้งแต่ปี 2557 เมื่อตรวจสอบ กับนายทะเบียนพบว่าบริษัทถูกขีดชื่อออกไป เพราะไม่มีการส่งงบการเงิน

ทางนำสืบของโจทก์ไม่อาจชี้ให้เห็นว่าจำเลยมีช่องทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีผลต่อการรับรู้ต่อประชาชนอย่างไร หรือทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองอย่างไร  การที่จำเลยลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เพราะเข้าใจว่าตนเองมีคุณสมบัติที่สามารถลงสมัครได้  ทางนำสืบของจำเลยไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิด ยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยพิพากษายกฟ้อง

ต่อมานายธัญวารินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ตนโดนกล่าวหาว่ามีความผิดเรื่องการถือหุ้นสื่อมาโดยตลอดทำให้ตนมองว่าการใช้ชีวิตทำไมถึงยากลำบากแบบนี้ ตนรู้ดีว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจนต้องต่อสู้กับเรื่องนี้มานานหลายปีตั้งแต่ปี 2563และยังมีหนี้ที่ต้องใช้คืนเป็นเงินจำนวนมากรวมทั้งชื่อเสียงที่ตนโดนกล่าวหา  จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจมากขึ้น

เมื่อถามว่าสิ่งที่ศาลอ่านคำพิพากษาเกี่ยวกับความเห็นของ กสทช. ได้มีการนำสืบในศาลรัฐธรรมนูญไปบ้างหรือไม่ นายธัญวารินทร์ กล่าวว่า ได้มีการนำสืบไปบ้างแล้วว่าบริษัททั้งสองไม่ได้มีหนังสือขออนุญาตเป็นสื่อมวลชนตั้งแต่ชั้นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ถึงศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาในรูปแบบดังกล่าว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยืนตามคำตัดสินดังกล่าวไปในทุกศาล 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกลับมาในเส้นทางการเมืองอีกครั้งหรือไม่ นายธัญญ์วารินทร์ กล่าวว่า ส่วนนี้ยังตอบยาก เพราะระหว่างทางที่โดนตัดสินคดีนี้จนไม่ได้เป็น สส.ก็ยังร่วมกิจกรรมกับพรรคก้าวไกลจนมาถึงพรรคประชาชนอยู่ ไม่ได้หายไปไหน แค่ทำงานในเบื้องหลัง ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกหรือไม่ เพราะรู้สึกว่ามี สส.รุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่มากขึ้น โดยตำแหน่ง สส.ไม่ได้คิดไม่ฝันว่าจะเป็นอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นลงสมัครเพราะ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกกับตนว่าสิ่งที่ตนอยากเปลี่ยนแปลงทั้ง สมรสเท่าเทียม ความเท่าเทียมทางเพศ ถ้าตอนนั้นไม่ได้เข้ามาเป็น สส.อาจจะไม่มีตัวแทนผลักดันในส่วนนี้ จึงเป็นสาเหตุที่เข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนั้น พอหลังจากที่สิ่งเหล่านี้สำเร็จเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน จึงรู้สึกว่าประสบความสำเร็จตามที่วางเป้าหมายตอนที่เข้าไปเป็น สส.ในครั้งนั้นแล้ว หลังจากนี้อาจจะโฟกัสการทำงานเบื้องหลังมากกว่า

ภาพประกอบจาก: Tanwarin Sukkhapisit ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์