'นายกฯ'ประชุม ก.ตร.นัดแรก ถกแต่งตั้ง 'นายพล'นอกวาระ ทดแทนเออรี่ จึง

'นายกฯ'ประชุม ก.ตร.นัดแรก ถกแต่งตั้ง 'นายพล'นอกวาระ  ทดแทนเออรี่ จึง

”นายกฯ“ ประชุม ก.ตร.นัดแรก ถกแต่งตั้งนอกวาระ ระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผบช.-รอง ผบช. และ ผบก. 3 ตำแหน่ง ทดแทนตำแหน่งเดิมเออรี่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่สำนักงานแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางมาประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 1/2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้การต้อนรับ ก่อนขึ้นแท่นรับความเคารพ และตรวจแถวกองเกียรติ 

จากนั้น นายกฯ เป็นประธานการประชุม ก.ตร.โดยมีข้าราชการตำรวจระดับสูงเข้าร่วม 

โดยการประชุมครั้งนี้มีวาระการประชุมทั้งสิ้น 5 วาระ ที่น่าสนใจ คือ เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่อง การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจนอกวาระประจำปี เพื่อทดแทนข้าราชการตำรวจที่ลาออกจากราชการ ตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 27 รอบเดือนต.ค. ปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยมีข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไป 3 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รอง จตช.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) 

พล.ต.ต. วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองจเรตำรวจ(รอง จตร.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) และพล.ต.ต.นิรันดร์ ทองฤทธิ์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 (ผบก.ศพฐ.3) ซึ่งมีผลวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีตำแหน่งว่างระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) 1 ตำแหน่ง , ผู้บัญชาการ (ผบช.) 1 ตำแหน่ง , รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช. ) 1 ตำแหน่ง และผู้บังคับการ (ผบก.) 3 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ มีรายงานคาดว่าจะมีการพิจารณา พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตามอาวุโสอันดับ 1 ส่วนตำแหน่ง ผบช. ที่ว่างลงนั้น อาจมีการพิจารณา รอง ผบช.อาวุโสสูงสุด 1 ตำแหน่ง และพิจารณาโยกย้ายตำแหน่ง ผบก. เพิ่มเติม โดยเฉพาะ ผบก. จังหวัดหนึ่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (บช.ภ.3) ในการแต่งตั้งนอกวาระครั้งนี้

จากนั้น เวลา 11.10 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯได้เดินลงจากห้องประชุม ซึ่งก่อนเดินทางกลับ นายกฯได้ยืนหารือกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผบ.ตร. นานเกือบ 5 นาที

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงผลการประชุม และมาตรการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ โดย นายอนุทิน กล่าวเพียงว่า “เดี๋ยวให้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้รับทราบข่าวกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ตอบเพียงว่า “ยัง ประชุมตั้งแต่เช้า”

ต่อมา พล.ต ท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม  ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 9/2568 มีเรื่องเพื่อทราบตามระเบียบปฏิบัติประจำของการประชุมประจำเดือน แต่เรื่องที่สื่อมวลชนให้ความสนใจคือการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ก.ตร. เพื่อขอความเห็นชอบคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้ช่วยผบ.ตร. และรองจเรตำรวจแห่งชาติลงมาถึงผู้บังคับการ นอกวาระประจำปี 2568 เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นว่าข้าราชการ 3 ราย เข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 27 คือ พลตำรวจโท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รอง จตช.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7), พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองจเรตำรวจ(รอง จตร.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) , และพลตำรวจตรี นิรันดร์ ทองฤทธิ์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 (ผบก.ศพฐ.3) ซึ่งมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา 

ทำให้มีตำแหน่งว่างระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) 1 ตำแหน่ง, ผู้บัญชาการ (ผบช.) 1 ตำแหน่ง, รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช. ) 1 ตำแหน่ง

โดย 3 ตำแหน่งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ หากไม่มีการคัดเลือกแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวจะเกิดความเสียหายกับทางราชการ ก็เลยขอความเห็นชอบในการคัดเลือกแต่งตั้งนอกวาระ ซึ่งที่ประชุมก.ตร. ให้ความเห็นชอบ ลำดับต่อไปจะมีการคัดเลือกแต่งตั้งทดแทน โดยไม่มีตำแหน่งอื่นเพิ่มเติมหรือหมุนเวียนแต่อย่างใด

โดย พล.ต ท ยิ่งยศ เปิดเผยต่อว่า สำหรับตำแหน่งรองจเรตำรวจแห่งชาติ ทางจเรตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงในที่ประชุมว่างานของจเรตำรวจที่จะต้องตรวจสอบมีหลาย 1,000 เรื่อง รองจเรตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ไปดูแลตรวจสอบงานที่จเรตำรวจแห่งชาติมอบหมาย หากขาดไปการขับเคลื่อนคงจะมีปัญหา และเช่นเดียวกันกับผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน การตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานหรือเหตุผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประกอบสำนวนคดีหากไม่มีหัวหน้าหน่วยในการขับเคลื่อนหน่วยก็คงไม่ราบรื่น และมีหลายเหตุผล ที่ประชุมถกเถียงกันและเห็นตรงกันว่าเป็นตำแหน่งที่มีความจำเป็น 
 สำหรับอดีตที่ไม่มีการแต่งตั้งนอกวาระ เนื่องจากการแต่งตั้งวาระปีที่ผ่านมา มีการแต่งตั้งล่าช้า ผู้ที่เข้าโครงการเดือนตุลาก็เข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งในวาระปกติ ไม่มีผลกระทบแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่การแต่งตั้งเขาวงรอบปกติ และการแต่งตั้งในครั้งนี้จะยึดหลักอาวุโส
พล.ต ท ยิ่งยศ  ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมาประชุมมีแค่เรื่องตามระเบียบวาระการประชุมเท่านั้น ไม่มีวาระอื่นส่วนเรื่องสแกมเมอร์หรือเรื่องอื่นทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวานนี้แล้ว และเป็นนโยบายเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล