มติวุฒิสภา '141 ต่อ 1 เสียง' เห็นชอบ ร่างกม.ตั๋วร่วม ตามสภาฯ เสนอ

มติวุฒิสภา '141 ต่อ 1 เสียง' เห็นชอบ ร่างกม.ตั๋วร่วม ตามสภาฯ เสนอ

"วุฒิสภา" ลงมติ 141 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ตามที่สภาฯ เสนอแล้ว เตรียมส่งครม. ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว  ในวาระสองและวาระสาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการพิจารณาวาระสองนั้น มีสว. ตั้งข้อสังเกตในประเด็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในกรรมการนโยบาย ที่ควรกำหนดลักษณะต้องห้ามเพิ่มเติม โดย น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. สงวนความเห็นมาตรา6 (3) คุณสมบัติต้องห้ามกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม โดยนางสาวรัชนีกร ขอให้เพิ่มคำว่า บุคคลล้มละลาย เนื่องจากเห็นว่าการกำหนดลักษณะต้องห้ามเพียง บุคคลล้มละลายทุจริตเกณฑ์ต่ำเกินไป เพราะเป็นกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วมเป็นตำแหน่งระดับชาติ 

"บุคคลล้มละลายถือเป็นผู้มีความบกพร่องการเงินส่วนตัว บกพร่องในตัวเอง ถามจะมาจัดการหนี้สินและทรัพย์สินของชาติได้อย่างไร ดังนั้น จะต้องห้ามบุคคลล้มละลาย เป็นกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ซับซ้อน และยกระดับความเชื่อมั่นของคณะกรรมการ เพราะคนล้มละลายมีแรงกดดันทางการเงิน ทั้งนี้ หากยกเว้นให้กับบุคคลล้มละลายอาจเกิดคำถามเรื่องธรรมาภิบาล บุคคลที่จะเข้ามากำกับเงินแผ่นดิน สิ่งสำคัญคือความรับผิดชอบต้องสูงกว่าการใช้ชีวิตส่วนตัว"น.ส.รัชนีกร อภิปราย

ขณะที่ น.ส.จีราภัทร์ การประเสริฐกิจ กรรมาธิการ ชี้แจงว่า ในทางกฎหมายเปิดโอกาสให้บุคคลล้มละลายมีโอกาสดเนินการกิจการใหม่ได้ โดยมองว่าการล้มละลายอาจเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือปัจจัยภายนอก ส่วนกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการระบบตั๋วร่วม ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านวิศวกรรม ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อสนับสนุนระบบตั๋วร่วมให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี ดังนั้น ภารกิจจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพย์สินโดยตรง กมธ.จึงกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามไว้เพียงว่า เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต เท่านั้น 

ทั้งนี้ในการลงมติตัดสินพบว่า เสียงข้างมากให้คงไว้ตามที่กมธ.เสนอต่อที่ประชุม 

นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสงวนความเห็นในมาตรา31วิธีการคำนวณอัตราค่าโดยสาร่วม โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม ความเสมอภาค มาตรา35 เงินและทรัพย์สินของกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม มาตรา38 คณะกรรมการบริหารกองทุน และมาตรา39 อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมติที่ประชุมวุฒิสภาเห็นด้วยให้คงตามร่างเดิมของ กมธ. 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภาได้ใช้เวลาพิจารณาวาระสอง ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ลงมติวาระสาม ผลปรากฏว่าที่ประชุมวุฒิสภาเห็นด้วย 144 ต่อ 1 งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ออกเสียง 1 เสียง 

ซึ่งถือว่าเป็นการลงมติเห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ตามขั้นตอนจะดำเนินการเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป