แกะรอยผู้ถือหุ้น ‘ปริ้นซ์ อินเตอร์’ ก่อนปัดเอี่ยว ‘ปริ้นซ์ กรุ๊ป’

บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเชื่อมโยงเครือข่าย "ปริ้นซ์ กรุ๊ป" ของ "เฉิน จื้อ" แต่บริษัทได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องแล้ว
KEY
POINTS
- บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเชื่อมโยงกับเครือข่าย "ปริ้นซ์ กรุ๊ป" ของ "เฉิน จื้อ" ที่ติดบัญชีดำของสหรัฐฯ แต่บริษัทได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องแล้ว
- บริษัทมีนายหวัง ยู่ ถัง สัญชาติไต้หวัน เป็นกรรมการเพียงคนเดียวและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 49% ร่วมกับผู้ถือหุ้นคนไทยอีก 3 ราย
- บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหลายครั้งนับตั้งแต่จดทะเบียนในปี 2565 โดยผู้ถือหุ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
ชื่อของบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กำลังได้รับการจับตาจากสาธารณชนอย่างมาก หลังถูกสื่อหลายสำนัก รวมถึง สส.พรรคประชาชน (ปชน.) อย่าง “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์” ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่าย “ปริ้นซ์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง” ของ “เฉิน จื้อ” นักธุรกิจสัญชาติสัญชาติสหราชอาณาจักร และกัมพูชา ซึ่งติด “แบล็คลิสต์” ในร่างกฎหมายของสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมระหว่างหน่วยงานเพื่อปราบปรามกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ
ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ เกิดขึ้นภายหลังสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และบีบีซีไทย รายงานเมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา พบเว็บไซต์ที่มีโลโก้ และชื่อเดียวกันกับปริ๊นซ์ กรุ๊ป ของนายเฉิน ที่ระบุว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในไทยด้วยเช่นกัน โดยเป็นของ บจก.ปริ๊นซ์ อินเตอร์เนชันแนล คอมพานี (Prince International) ในกรุงลอนดอน
บริษัทแห่งนี้มีสำนักงานอยู่ในกรุงไทเปของไต้หวัน กทม. กรุงลอนดอน รวมถึงกรุงพนมเปญของกัมพูชา โดยมีพอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศพื้นที่มากกว่า 3.6 ล้านตารางเมตร และมีพื้นที่พัฒนากว่า 5 ล้านตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม คลับ ศูนย์การค้า ไปจนถึงสำนักงาน โรงแรม วิลลา หรือเกาะต่างๆ
ทั้งนี้ ในเว็บไซต์ใช้ชื่อบริษัทว่าไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ (Taiwan Prince Real Estate Investment) ที่ระบุเบอร์โทรศัพท์ขึ้นต้นรหัสในไต้หวัน และอ้างว่าบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในบางโครงการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในไทย ทว่าปัจจุบันเว็บไซต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
สำหรับที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตั้งอยู่ที่ 32/28 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคาร “ซิโน-ไทย ทาวเวอร์” โดยรายละเอียดในส่วนนี้ ปรากฏข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทดังกล่าว ก่อนเข้าถึงไม่ได้ในเวลาต่อมาด้วย
อย่างไรก็ดี บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงเรื่องนี้ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกพาดพิง ยืนยันว่าประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และไม่เคยพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริง แอนด์ คอนสดรัคชัน จำกัด (มหาชน) ในนามของผู้กำกับดูแลบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เอช ที อาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบอาคาร ซิโน-ไทย ทาวเวอร์ บริษัทฯ มิได้มีความเกี่ยวข้องในการประกอบกิจการใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับ บริษัท บริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือเครือข่ายการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอันผิดกฎหมายใดๆ
กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอไปแล้วว่า บริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2565 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ประกอบธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ปรากฏชื่อนาย หวัง ยู่ ถัง สัญชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นกรรมการรายเดียว นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2568 หวัง ยู่ ถัง ถือหุ้นใหญ่สุด 49% นายพิภพ ประทุมวัลย์ ถือ 21% นายปริตวาทย์ กุลศรีสุวรรณ ถือ 20% นายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ ถือ 10%
บริษัทนี้มีการแจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิมในปี 2565 จำนวน 1 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2566 ขณะที่นายหวัง ยู่ถัง เพิ่งเข้ามาเป็นกรรมการ เมื่อ 5 ก.ย. 2566 และนายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ เข้ามาเป็นกรรมการเมื่อ 10 เม.ย.2567 แต่ปัจจุบัน นายวุฒิชัย ได้ยุติการเป็นกรรมการบริษัทแล้ว เหลือแค่ “หวัง ยู่ถัง” เป็นกรรมการรายเดียว
ขณะเดียวกันวัตถุประสงค์การทำธุรกิจของบริษัทเมื่อปี 2565 ซึ่งปรากฏผ่านงบการเงินพบว่า บริษัทแห่งนี้ ประกอบกิจการขายสินค้าตามวัตถุที่ประสงค์จากประเทศญี่ปุ่นเช่น เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม อาหารแห้ง เสื้อผ้า เป็นต้น
ต่อมาในปี 2566 แจ้งเปลี่ยนเป็น การขายปลีกสินค้าอื่นๆในร้านค้าทั่วไป หลังจากนั้นเมื่อ 13 ส.ค. 2567 เปลี่ยนเป็น กิจกรรมของตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับ ค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง กระทั่ง 15 มิ.ย. 2568 เปลี่ยนประเภทธุรกิจเป็น ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
บริษัทแห่งนี้นำส่งงบการเงิน 3 ปีย้อนหลัง มีดังนี้
งบการเงินปี 2565 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 1,006,266 บาท หนี้สินรวม 44,000 บาท มีรายได้รวม 6,266 บาท รายจ่ายรวม 44,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,733 บาท
งบการเงินปี 2566 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 729,345 บาท หนี้สินรวม 18,888 บาท รายได้รวม 10,000 บาท รายจ่ายรวม 1,261,810 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,251,810 บาท
งบการเงินปี 2567 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 1,521,851 บาท หนี้สินรวม 5,096,157 บาท รายได้รวม 858,415 บาท รายจ่ายรวม 5,072,286 บาท ขาดทุนสุทธิ 4,284,763 บาท
เมื่อลงลึกรายละเอียดของผู้ถือหุ้นพบว่า “หวัง ยู่ถัง” สัญชาติไต้หวัน เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด 49% และกรรมการบริษัท “ยุคก่อตั้ง” ในช่วง ม.ค. 2566 โดยมีรัชกฤช นิธิธนภัทร์ และณิชาณัญช์ ทาระศักดิ 2 คนไทยร่วมถือ 46% และ 5% ตามลำดับ
ต่อมาเมื่อ ส.ค. 2566 มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นโดย “หวัง ยู่ถัง” โอนหุ้นให้แก่ พิง ไซอึซ์ ฮวง (สัญชาติจีน) จำนวน 49% ส่วนคนไทยอีก 2 คนข้างต้น (รัชกฤช และณิชาณัญช์) ยังถือหุ้นในสัดส่วนเดิมคือ 46% และ 5% ตามลำดับ
หลังจากนั้นตั้งแต่ ม.ค. 2567 เป็นต้นมา ปรากฏชื่อ “หวัง ยู่ถัง” กลับมาถือหุ้นใหญ่อีกครั้งจำนวน 49% และมีคนไทย 3 คนเข้ามาถือหุ้นรวม 51% คือวุฒิชัย ประทุมวัลย์ พิภพ ประทุมวัลย์ และปรติวาทย์ กุลศรีสุวรรณ โดยคนไทยทั้ง 3 คนดังกล่าว มีบางช่วงสัดส่วนการถือหุ้นผลัดเปลี่ยนกันไป เช่น ม.ค. 2567 วุฒิชัย ถือ 20% พิภพ ถือ 16% ปริตรวาทย์ กุลศรีสุวรรณ ถือ 15% ส่วนในเดือน ส.ค. 2568 พิภพ ถือหุ้น 21% ปริตรวาทย์ ถือ 20% และวุฒิชัย ถือ 10% เป็นต้น
(ข้อมูลที่ปรากฎในเว็บไซต์ http://princeth.com แต่ปัจจุบันเว็บไซต์นี้ไม่สามารถเข้าถึงได้, ข้อมูลจาก: บีบีซีไทย)
โดยในส่วนของ 3 คนไทยข้างต้น พบว่าเข้าไปถือหุ้นในธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้
- นายพิภพ ประทุมวัลย์ ถือหุ้นอีก 2 บริษัทที่เลิกกิจการไปแล้วคือ บริษัท ไอเดีย อินโนเวชั่น จำกัด และบริษัท วีแคน ทีเอช จำกัด
- นายปริตวาทย์ กุลศรีสุวรรณ ถือหุ้นอีก 4 บริษัท/หจก. ได้แก่ ห้างเพชรทอง กุลศรีสุวรรณ ป่าแพ่ง บริษัท วีวี แคน ทีเอช จำกัด บริษัท ออกัส พลัส จำกัด และเลิกกิจการ 1 แห่งคือ บริษัท วีแคน ทีเอช จำกัด
- นายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ ถือหุ้นอีก 5 บริษัทคือ บริษัท รักษ์ษาทรัพย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ จำกัด และบริษัท ริเว่อร์วิว โพรเทคท์ แอนด์ คลีนนิ่ง จำกัด เลิกกิจการ 2 แห่งคือ บริษัท ไอเดีย อินโนเวชั่น จำกัด และบริษัท วีแคน ทีเอช จำกัด เลิกกิจการแบบเสร็จชำระบัญชีแล้ว 1 แห่งคือ บริษัท สิน ไทย อัลไลแอนซ์ เทรดดิ้ง จำกัด
โดยทั้ง 3 คนถือหุ้นร่วมกันในบริษัท บริษัท วีแคน ทีเอช จำกัด (วัตถุประสงค์การขายปลีกสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าทั่วไป) ซึ่งเลิกกิจการไปแล้ว แต่ยังไม่เสร็จชำระบัญชี ส่วนอีก 2 คน (พิภพ และวุฒิชัย) ถือหุ้นร่วมกันอีก 1 แห่งคือ บริษัท ไอเดีย อินโนเวชั่น จำกัด (วัตถุประสงค์การขายส่งเสื้อผ้า) ซึ่งเลิกกิจการ แต่ยังไม่เสร็จชำระบัญชี
(บจ.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้แจงเรื่องเช่าตึกซิโน-ไทยฯ และปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องเครือ "ปริ้นซ์ กรุ๊ป")
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของผู้ถือหุ้นในช่วงปี 2566 มีผู้ถือหุ้น 3 คน คือ พิง ไซอึซ์ ฮวง (สัญชาติจีน) ถือ 49% นายรัชกฤช นิธิธนภัทร์ ถือ 46% ณิชาณัญช์ ทาระศักดิ์ ถือ 5% แต่ปัจจุบันทั้งหมดมิได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แล้ว
รายของ รัชกฤช นิธิธนภัทร์ พบว่าปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 11 บริษัท ได้แก่
- บริษัท อันดามัน ซันแซนด์ จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมสวนพฤกษชาติและสวนสัตว์ ถือจำนวน 50%
- บริษัท ริช แอคเคาน์ติ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 40%
- บริษัท ริช คอนซัลติ้ง แอนด์ ภาษีอากร จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 50%
- บริษัท ริช วางระบบบัญชี จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 50%
- บริษัท เอสแอนด์เค กู๊ดไลฟ์ จำกัด วัตถุประสงค์ การผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ที่ใช้รักษาโรค ถือจำนวน 50%
- บริษัท โคสเทล เซอร์วิสเซส จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น ของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นเพื่อเป็นที่พักอาศัย ถือจำนวน 25%
- บริษัท อันดามัน ไวท์ แซนด์ บีช จำกัด วัตถุประสงค์ การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ถือจำนวน 90%
- บริษัท 3 วาย อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตัคชั่น จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการรับเหมางานระบบ งานก้อสร้าง งานรีโนเวทรับตกแต่งสถานที่ ออกแบบภายในและภายนอกอาคาร รับออกแบบประติมากรรม งานศิลปะ ประดับตกแต่งต่างๆ ถือจำนวน 51%
- บริษัท อันดามัน ไอส์แลนด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด วัตถุประสงค์ ให้บริการเป็นตัวกลางในการประกอบธุรกิจภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ถือจำนวน 50%
- บริษัท เดอะ มีเดีย โค้ด จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการทัวร์ท่องเที่ยวภายในประเทศ ถือจำนวน 51%
- บริษัท เชม โค เวิร์คกิ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร ถือจำนวน 30% (ปัจจุบันเลิกกิจการแล้ว)
ส่วน ณิชาณัญช์ ทาระศักดิ์ พบว่าปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 6 บริษัท ได้แก่
- บริษัท ริช คอนซัลติ้ง แอนด์ ภาษีอากร วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 50%
- บริษัท ริช วางระบบบัญชี จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 50%
- บริษัท โคสเทล เซอร์วิสเซส จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น ของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นเพื่อเป็นที่พักอาศัย ถือจำนวน 26%
- บริษัท ริช แอคเคาน์ติ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ กิจกรรมเกี่ยวกับบัญชีการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี ถือจำนวน 2%
- บริษัท เจ พลัส ดาต้า จำกัด วัตถุประสงค์ การขายส่งคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ ถือจำนวน 5%
- บริษัท เชม โค เวิร์คกิ้ง จำกัด วัตถุประสงค์ การบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร ถือ 21% (ปัจจุบันเลิกกิจการแล้ว)
ในจำนวนนี้ทั้ง 2 คนถือหุ้นร่วมกันใน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท ริช คอนซัลติ้ง แอนด์ ภาษีอากร จำกัด บริษัท ริช วางระบบบัญชี จำกัด บริษัท โคสเทล เซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท ริช แอคเคาน์ติ้ง จำกัด และบริษัท เชม โค เวิร์คกิ้ง จำกัด
ทั้งหมดคือข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งแต่ยุคก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดีบุคคลข้างต้น และบริษัทต่าง ๆ ข้างต้น ขณะนี้ในข้อเท็จจริงยังมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่าย "ปริ้นซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป” แต่อย่างใด
นอกจากนี้บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังออกมาปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ ในการดำเนินการทางธุรกิจ และปัจจุบันยังไม่มีบุคคลหรือนิติบุคคลใดถูกตั้งข้อกล่าวหา จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด







