'ปชน.' หนุนคนละครึ่งฯ แนะ 'รัฐบาล' เร่งหามาตรการฟื้นศก.ระยะยาว

"สิทธิพล" หนุน "รัฐบาล" ทำคนละครึ่งพลัส พร้อมแนะให้เร่งหามาตรกาฟื้นเศรษฐกิจระยะยาว หลังประเมินเศรษฐกิจมีโอกาสโตต่ำ 0.3%
ที่รัฐสภา นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสตอบรับต่อวันแรก ลงทะเบียน คนละครึ่ง พลัส ว่า ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ในมุมหนึ่งสะท้อนว่าประชาชนในปัจจุบันคาดหวังกับโครงการ คนละครึ่งพลัส สูง ซึ่งอาจสอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่ประชาชนอยู่ในภาวะรายได้ถดถอย ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งโครงการ คนละครึ่ง ดังกล่าวตอบโจทย์ในระยะสั้นคือ เป็นโครงการที่สามารถทำได้ทันที มีระบบรองรับ และยังเป็นโครงการที่รับฟังเสียงสะท้อนจากฝ่ายค้าน นักวิชาการ ในการปรับเงื่อนไข ให้ผู้ที่ยื่นแบบภาษีได้สิทธิ์มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ยื่นสิทธิ์ภาษี ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีประสิทธิจำกัด
"โครงการคนละครึ่งกระตุ้นหรือเน้นผลระยะสั้น สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจหรือจีดีพีไม่ได้สูงมาก เพราะเป็นการโยกการใช้จ่ายใช้สอยของประชาชนไปสู่ร้านที่เข้าร่วมคนละครึ่งพลัส สิ่งที่เกิดขึ้นคือจำนวนเงินที่ประชาชนใช้จ่ายเท่าเดิม ซึ่งจะไม่ได้ช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจหรือ กระตุ้นการลงทุนใหม่ๆมากขึ้น ทั้งนี้มีประชาชนในพื้นที่จำนวนมากที่สนใจเข้าร่วมโครงการแต่ไม่สามารถลงทะเบียนได้เพราะเป็นกลุ่มที่เข้าไม่ถึงโครงการ" นายสิทธิพล กล่าว
นายสิทธิพล กล่าวต่อว่าสิ่งที่ต้องการจากนี้คือผลต่อเนื่องในระยะยาว โดยมี 2 เรื่องที่รัฐบาลควรทำ คือ ร้านค้าที่เคยเข้าระบบได้ข้อดีในระยะยาวคือแม้ว่าเงินจะไม่มี รัฐไม่ได้สนับสนุนแล้ว แต่เมื่อประชาชนได้รู้จักยังซื้อต่อเนื่อง ดังนั้นช่วงเวลาที่เหลือ 2-3 เดือนนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือพยายามจูงใจ ให้ร้านค้าที่ไม่เคยเข้าสู่ระบบให้มาเข้าสู่ระบบได้ และอีกเรื่องคือ มีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการที่กังวลเรื่องภาษี เพราะไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้ว หากมีคนมาใช้จ่ายกับเขาเยอะจะมีภาษีย้อนหลังหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้จริงจัง ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ในผลดีระยะยาว
เมื่อถามว่า การทำโครงการนี้ของรัฐบาลจะไม่เข้าข่ายผิดเงื่อนไขของข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า หากเน้นประโยชน์ของประชาชน ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาบริหารประเทศจำเป็นต้องออกนโยบายเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้ประชาชนที่มีความทุกข์ร้อน ได้รับความช่วยเหลือและบรรเทาลง
"เป็นสิทธิ์เต็มที่ของฝ่ายบริหารที่จะดำเนินมาตรการต่างๆได้ แต่ข้อท้วงติงและข้อเสนอต่างๆ รัฐบาลจำเป็นจะต้องระมัดระวัง ย้ำว่าต้องทำให้ประชาชนที่อยากเข้าถึงโครงการดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงต้องเตรียมมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ปีนี้มีโอกาสเติบโตได้เพียง 0.3% ถือว่าต่ำมากๆ"นายสิทธิพล กล่าว







