'รองโฆษก รัฐบาล' เตือนประชาชน อย่ากดลิงก์ หลอกลงทะเบียนคนละครึ่ง

'รองโฆษก รัฐบาล' เตือนประชาชน อย่ากดลิงก์ หลอกลงทะเบียนคนละครึ่ง

"รองโฆษก รัฐบาล" เผยประชาชนตอบรับกระแสลงทะเบียนคนละครึ่งดี พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ส่งลิงก์ปลอมลงทะเบียนคนละครึ่ง

น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ถึงความคืบหน้าของการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ในส่วนผู้ประกอบการร้านค้าฯ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 - 17 ต.ค. 68  พบว่ามีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จแล้ว 123,960 ราย แบ่งเป็น  ร้านค้ารายเดิม 72,185 ราย และ ร้านค้ารายใหม่ 51,775 ราย ส่วนร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 98,064 ราย แบ่งเป็น รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการ 91,917 ราย และ รอดำเนินการตรวจสอบ 6,147 ราย

"ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจและมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการฯ กำหนด สามารถทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการฯ จะเปิดให้เริ่มสแกนรับเงินจากประชาชนได้จริงในวันที่ 29 ต.ค. 68 ซึ่งร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัครร้านค้าในวันที่ 19 ธ.ค. 68" น.ส.อัยรินทร์ กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวต่อว่าสำหรับส่วนของประชาชน โครงการ คนละครึ่งพลัส จะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง  ตั้งแต่วันที่ 20 - 26 ต.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิร่วมโครงการฯ จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68

น.ส.อัยรินทร์ กล่าวต่อว่าจากกระแสความนิยมของประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีต่อโครงการฯ ได้รับความสนใจทั่วประเทศ จึงเป็นเหตุให้เหล่ามิจฉาชีพพยายามฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งลิงก์ปลอม หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวและดูดทรัพย์ของประชาชน ซึ่งปัญหาดังกล่าว รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในเบื้องต้นขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจไซเบอร์ ดังนี้

1. อย่ากดลิงก์จากข้อความแปลกปลอม เนื่องจากโครงการรัฐ จะไม่ส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่านข้อความ

2. อย่าหลงเชื่อเพจ/บัญชีโซเชียลที่ไม่เป็นทางการ และขอให้ประชาชน ตรวจสอบว่ามีเครื่องหมายยืนยัน และผู้ติดตามจริงหรือไม่ โดยการลงทะเบียนที่ถูกต้องนั้น ทำได้เฉพาะแอปฯ เป๋าตัง และ ถุงเงิน

 

3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อาทิ เลขบัตรประชาชน, วันเกิด, PIN, OTP, ข้อมูลบัญชีธนาคาร

 

4. อย่าเชื่อสายโทรศัพท์ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ โดยหน่วยงานรัฐและธนาคาร ไม่มีนโยบายโทรขอ OTP หรือให้โอนเงิน

 

5. ตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง หากมีความสงสัย ให้โทรสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และอย่าแชร์ข้อมูลจากข่าวลือ/เพจที่ไม่น่าเชื่อถือ

 

“หากประชาชนได้รับลิงก์ปลอม ขอให้พิจารณา ตั้งสติ และ “ไม่กดลิงก์” ส่วนกรณีประชาชนเผลอกดลิงก์ปลอมและได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ ขอให้ดำเนินการแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.go.th/login หรือโทร. สายด่วนที่ 1441 เพื่อระงับบัญชีคนร้ายภายใน 72 ชั่วโมง และรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน”