'โรม' ผิดหวังนายกฯปราบแก๊งคอลฯ จี้ปลด 'ธรรมนัส' ปปง.สอบเส้นเงิน

'โรม' ผิดหวังนายกฯปราบแก๊งคอลฯ จี้ปลด 'ธรรมนัส' ปปง.สอบเส้นเงิน

'รังสิมันต์' ชง 3 ข้อถึงนายกฯ ปราบแก๊งสแกมเมอร์ จี้ปลด 'ธรรมนัส' พ้นเก้าอี้รองนายกฯ-รัฐมนตรี อ้างพัวพัน 'เบน สมิธ' พร้อมสั่ง ปปง.สอบเส้นทางเงิน

KEY

POINTS

  • นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน แสดงความผิดหวังต่อนายกรัฐมนตรีที่การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่มีความคืบหน้าจริงจัง และมองว่าการตั้งคณะทำงานเป็นเพียงการซื้อเวลา
  • เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลด ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าปฏิบัติงาน
  • เสนอให้สั่งการ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ ร.อ. ธรรมนัส และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามาจากการกระทำความผิดให้ยึดอายัดทันที

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เราต้องยอมรับจริง ๆ ว่าตอนนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสแกมเมอร์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปประชุมหรือพูดคุยกับนักการเมืองที่ไหน ทุกคนล้วนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องยอมรับ ว่าความเคลื่อนไหวของประเทศไทยกลับตามหลังประเทศอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ไม่นานมานี้ ท่านนายกฯตั้งคณะทำงานที่จะปราบปรามแก๊งแกมเมอร์ ความเคลื่อนไหวแบบนี้ฟังเหมือนจะดูดี แต่เป็นห่วงจริงๆว่าจะเป็นแค่เพียงการซื้อเวลาเท่านั้น เพราะนอกจากการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว เรายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอย่างเอาจริงเอาจังของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่จะทลายศูนย์กลางของแก๊งสแกมเมอร์แต่ประการใด ที่จับ ๆ ไปที่มีให้เห็นอยู่บ้าง ก็เทียบไม่ได้กับบรรดาแก๊งสแกมเมอร์ที่ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน อันนั้นหลายแสนล้านบาท เผลอ ๆ นับล้านล้านบาท เป็นเครือข่ายใหญ่มาก ทุกวันนี้เราก็เห็นแค่เพียงการส่งสัญญาณฟอกขาวของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐต่ออาชญากรตัวเป้งที่กัดกินสังคมไทยมาเป็นเวลานานเท่านั้น น่าผิดหวังจริง ๆ

นายรังสิมันต์ เสนอนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยเหตุที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีถ้าท่านต้องการเอาจริงเอาจังและไม่ได้มีส่วนได้เสียใด ๆ กับ แก๊งสแกมเมอร์ ท่านต้องสั่งการดังต่อไปนี้ได้แล้ว

1. ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า ออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสให้คณะทำงานของตัวเองเป็นทนายความให้กับนายเบน สมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเฝ้าระวังจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซ็น อาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าทำหน้าที่ จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบของกรรมาธิการ อีกทั้งยังใช้อำนาจในลักษณะของการข่มขู่การฟ้องปิดปาก ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ทำให้ขาดความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นใดอย่างยิ่ง

2. สั่งการให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนาย เบน สมิธ และภรรยา รวมถึง ร.อ. ธรรมนัส ตลอดจนเครือข่ายของนายยิม เลียก หากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็ต้องยึดอายัดทันที

3. สั่งการให้ ตร. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการปราบปรามและดำเนินคดีเครือข่ายทุนเทายึดประเทศพวกนี้ หากเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา ก็ต้องมีการใช้กลของศาล ICC เพื่อเอาผิดต้องผู้นำของ กัมพูชาด้วย

"ผมในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นฯ หวังว่าท่านนายกจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนตัวผมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองในการเชิญท่านธรรมนัส ท่านนฤมล และท่านวรภัค เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมาธิการความมั่นคงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย โปรดมาด้วยตนเองนะครับ อย่าส่งใครมาแทน" นายรังสิมันต์ ระบุ

นายรังสิมันต์ ระบุด้วยว่า สุดท้ายนี้ในฐานะที่ได้ติดตามคณะรัฐสภาไทยในเวทีการประชุม IPU หรือสหภาพรัฐสภา ณ นครเจนีวา ก็จะหยิบยกเรื่อง Scam Center เพื่อเป็นหนึ่งในเรื่องเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือในการจัดการแก๊งสแกมเมอร์ต่อประเทศต่าง ๆ ต่อไปด้วย

ข้อมูลจาก: Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม