ทบ.สวนโฆษกกัมพูชา พื้นที่พิพาทอยู่ในอธิปไตยไทย ไม่ต้องใช้ JBC

ทบ.สวนโฆษกกัมพูชา พื้นที่พิพาทอยู่ในอธิปไตยไทย ไม่ต้องใช้ JBC

ทบ. ตอบกลับ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ชี้พื้นที่พิพาทอยู่ในอธิปไตยไทย ไม่ต้องใช้กลไก JBC ย้ำไทยแก้ปัญหาตามหลักสากล

KEY

POINTS

  • โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่าพื้นที่พิพาทที่ชาวกัมพูชารุกล้ำนั้น อยู่ลึกเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน
  • พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งต้องใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการแก้ไข
  • ดังนั้น กองทัพบกจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอการทำงานของ JBC ในบริเวณนี้ และการดำเนินการของไทยเป็นไปตามกฎหมาย

จากกรณีที่  นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ  กรณีที่สื่อมวลชนไทยได้ กล่าวว่า บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว  รวมถึงพื้นที่ที่ฝ่ายไทยได้ มีการวางลวดหนาม และได้ใช้รถปรับพื้นดินเพื่อปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดอยู่นั้น  อยู่ในเขตแดนไทย

โดยนายเพ็ญ โบนา ได้กล่าวว่าเขตแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย เป็นเขตแดนระหว่างประเทศตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 ซึ่งรวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 และหลักเขตแดนที่ได้รับการยอมรับ จำนวน 74 หลัก  ยังคงมีผลทางกฎหมายและได้รับการคุ้มครองภายใต้บทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพียงฝ่ายเดียว

ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา พยายามที่จะไม่เข้าใจ ซึ่งได้เคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง จึงขอเรียนว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านกัมพูชาบุกรุกที่เป็นข้อพิพาทกันอยู่ในขณะนี้  อยู่นอกเขตพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ ลึกเลยเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย  ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะนำแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 มาใช้อ้างอิงก็ตาม   

โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดนที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบ  ตามสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ระบุให้ใช้หลักเขตแดน ที่ได้เคยปักปันกันไว้แล้วในอดีตเป็นหลัก  ซึ่งในบางหลักเขตอาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง จึงเกิดเป็นพื้นที่ ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ทำให้ต้องใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหา  

แต่พื้นที่ที่มีปัญหาและข้อพิพาทกันอยู่ และจำเป็นต้องดำเนินการเร่งแก้ไขนั้น  จะเป็นในส่วนที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์   แต่เป็นพื้นที่ที่อยู่ลึกเลยเข้ามาในฝั่งประเทศไทยอย่างชัดเจน  จึงไม่จำเป็นต้องรอให้กลไก JBC มาใช้แก้ปัญหา ในบริเวณพื้นที่ส่วนนี้ การรุกล้ำกรณีดังกล่าวจึงย่อมมีผลทางกฎหมายของไทย  และไม่เป็นการละเมิดในบทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่กล่าวอ้าง