‘บวรศักดิ์’ เผย อย่าบังอาจเดา กม.ประชามติ โปรดเกล้าฯ เมื่อใด

‘บวรศักดิ์’ เผย อย่าบังอาจเดา กม.ประชามติ โปรดเกล้าฯ เมื่อใด

“บวรศักดิ์” ชี้ อย่าบังอาจเดา กม.ประชามติ ฉบับใหม่ โปรดเกล้าฯ เมื่อใด เผย ร่างแก้รธน. พรรคส้ม ไม่ปิดช่องแก้ หมวด1-2 ไม่สำคัญ ให้รอดูวาระ3 ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. หรือไม่ ระบุ ที่มา สสร. ยึดโยง ปชช. ทางอ้อมได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงถึงข้อสังเกตหากรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือน จะกระทบกับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องของสภา แต่ถ้ามีการยื่นยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญถึงจะชะงัก แต่รัฐบาลใหม่ ที่มาหลังจากการเลือกตั้ง สามารถขอให้สภาหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ภายใน 60 วัน ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว ซึ่งจะครบ 90 วันในวันที่ 3 พ.ย.68 จะมีการโปรดเกล้าฯเมื่อใด เราไปเดาไม่ได้ เป็นพระราชอำนาจ อย่าไปบังอาจเดาทีเดียว รู้แต่ว่าถ้าใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ไทม์ไลน์ก็เร็วขึ้น แต่ถ้าใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ และลงมาก่อนวันที่ 3 พ.ย. ไทม์ไลน์ก็เปลี่ยน สภาจะมีเวลามากขึ้นอีกเดือน 

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องรัฐบาลสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน หากจะถามเรื่องเนื้อหาการเมือง ให้ไปถามพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรคประชาชน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วุฒิสภา รัฐบาลมีหน้าที่เดียวคือ เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภาแล้ว รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญบังคับให้รัฐบาลต้องไปขอประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ คำถามแรกเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคำถามที่สอง เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับรูปแบบ ขั้นตอนกระบวนการและหลักการพื้นฐานที่ปรากฎในร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งมานี้หรือไม่ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จประชามติก็เหลือคำถามเดียวคือ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส่วนคำถามที่สอง จะทำได้ต่อเมื่อรัฐสภาเห็นชอบรัฐธรรมนูญแล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีครบ 90 วัน แล้วยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ลงมา จะเป็นอย่างไร นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้า 90 วัน ไม่มีการพระราชทานลงมา เป็นเรื่องที่สภาต้องประชุมกันตามมาตรา 146 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม อย่าไปตั้งสมมติอย่างนั้น รอความจริงก่อน และจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่โปรดเกล้าฯลงมาทั้งหมด เว้นแต่มีข้อขัดข้องทางเทคนิค เช่น ผิดพลาดทางถ้อยคำ

เมื่อถามถึงกรณีที่สภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก มีความกังวลจะเปิดโอกาสให้แก้หมวด 1 และหมวด 2 นั้น นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูร่างที่สภาผ่านในวาระ 3 ส่วน วาระ 1 และ 2 ไม่สำคัญ เพราะกว่าจะถึงวาระ 3 จะแก้อะไรก็แก้ได้ หมวด 1 หมวด 2  ที่กังวลว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องดูร่างสุดท้ายที่สภาลงมติในวาระที่ 3 

เมื่อถามถึงกรณีมีการไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย จะเอาเนื้อหารัฐธรรมนูญไปทำประชามติในวันที่ 29 มี.ค.ไม่ได้ จะถามได้เพียงคำถามเดียวว่าเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ให้มีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรงจากประชาชน จะทำอย่างไรให้ยึดโยงประชาชน นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า  มีหลายทาง ศาลรัฐธรรมนูญ บอกไม่ให้เลือกตั้งโดยตรง ก็ใช้เลือกตั้งโดยอ้อม ส่วนที่มีวิจารณ์ว่าศาลวินิจฉัยเกินคำขอนั้น การห้ามศาลตัดสินเกินคำขอนั้นใช้ในกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นเรื่องบุคคล แต่จะมาใช้ในกฎหมายไม่ได้ เพราะกฎหมายมหาชนคุ้มครองสิทธิสาธารณะ เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก MOA มีการเปลี่ยนแปลง จะกระทบกับไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้า MOA ไม่เปลี่ยน ซึ่งไม่แน่ เพราะเหตุการณ์ทางการเมืองทั้งหมดเราไม่รู้ สื่อก็รู้ว่าการเมืองมันเปลี่ยนทุกวัน ไม่ได้เปลี่ยนทุกเดือน แต่วันนี้ก็คืออย่างนี้ ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยน