สว.สำรองฟ้อง ปธ.กกต.-พวก ปมยื้อเวลาคดีฮั้ว สว. ศาลนัดฟัง 3 พ.ย.นี้

กลุ่ม สว.สำรอง ลุยฟ้อง 'ประธาน กกต.-พวก' ผิด ม.157 กล่าวหามีพฤติการณ์เข้าข่ายยื้อเวลา คดีฮั้ว สว. ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่ง 3 พ.ย.นี้
KEY
POINTS
- สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นฟ้องประธาน กกต. กับพวกรวม 8 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
- กล่าวหาว่า กกต. จงใจทำให้กระบวนการสอบสวนคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. 138 คนเกิดความล่าช้า ไม่ส่งสำนวนให้ศาลฎีกาฯ พิจารณา
- ความล่าช้าดังกล่าวส่งผลให้ สว.สำรองได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาทดแทนได้
- ศาลอาญาคดีทุจริตฯ รับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับไต่สวนคดีหรือไม่ในวันที่ 3 พ.ย.
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายวิเชียร ศรีสุด และสมาชิกชมรมสภาเที่ยงธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ที่เข้ารอบสุดท้าย กับพวกรวม 2 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กับพวกรวม 8 คน ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฯ
กรณีสืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย. 2568 นายวิเชียร ศรีสุด ประธานสภาชมรม "สภาเที่ยงธรรม"หรือภาคีเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ หรือ "ภปน." ได้รับร้องเรียนจาก สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.ว่า กกต.ได้ทำสำนวนการยื่นถอดถอน สว.จำนวน 138 คน เป็นระยะเวลานานเกิน 1 ปี โดยประธาน กกต. คณะกรรมการ กกต. และเลขาธิการ กกต.ไม่ได้ควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบและเร่งรัด การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ทำให้สำนวนการถอดถอน สว.เกิดความล่าช้า จน กกต.ไม่สามารถยื่นคำร้องและส่งสำนวนการยื่นถอดถอนสว.ไปยังศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งได้ ทำให้ สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.ได้รับความเสียหายเนื่องจากเมื่อไม่มีการยื่นสำนวนถอดถอน สว.ไปยังศาลฎีกาฯแล้วทำให้ สว.สำรองไม่อาจเลื่อนขึ้นไปแทนที่ สว.ที่ถูก ยื่นถอดถอนได้ และหากจำนวน สว. ที่เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จะทำให้อดีตผู้สมัคร สว. มีการเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งของ สว.ที่เหลืออยู่ได้ตาม พ.ร.ป./สว/61มาตรา 62,มาตรา 45
นายวิเชียร ศรีสุด จึงได้มอบคดีที่ กกต.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ประกอบด้วย พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 172 ให้ พ.ต.อ.สมพล เรื่องเกตุพันธุ์ทนายความประจำชมรม "สภาเที่ยงธรรม" รับคดีไปดำเนินการยื่นฟ้อง กกต.ทั้ง 8 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯดังกล่าว
โดย พ.ต.อ.สมพล ทนายความประจำชมรมสภาเที่ยงธรรม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากสภาเที่ยงธรรมให้ดำเนินการยื่นฟ้อกกต. ทั้ง 8 คน หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายยื้อกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว. เพราะมองว่าคดีดังกล่าวควรต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนตั้งแต่วันที่มีการประกาศผลเลือกตั้ง วันที่ 10 ก.ค. 2567 โดยคดีนี้ตามหลักแล้วจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี แต่พบว่าล่วงเลยมากว่า3เดือนแต่ไม่มีความคืบหน้า คดีนี้การสอบสวนอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะนี้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ และได้ส่งเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบภายในกรอบระยะเวลา 60 วันนับแต่ที่ได้รับสำนวน เพื่อส่งสำนวนต่อไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณาตัดสิน แต่กลับพบว่ากกต. ได้ตั้งหลักเกณฑ์ใหม่ โดยส่งสำนวนไปยังคณะต่าง ๆ ของกกต. ที่ตั้งขึ้นมาเอง จึงมองว่าเป็นการยื้อเวลา เพราะหากนับรวมทุกขั้นตอนจะต้องใช้เวลามากกว่า 8 เดือน จึงจะสามารถส่งสำนวนให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ จุดนี้ตนมองว่า ไม่น่าจะต้องใช้ระยะเวลานานขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลคดีอาญาทุจริตฯได้รับคำฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.182/2568 ไว้พิจารณา โดยนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้องว่าจะรับคดีไว้ไต่สวนหรือไม่วันที่ 3 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.







