'ณัฐพงษ์'โยน 'อนุทิน-สีหศักดิ์' เปิดซาวด์ผี-เครื่องบินรบ ละเมิดหรือไม่

“ณัฐพงษ์” โยน “อนุทิน-สีหศักดิ์” ตอบให้ชัด “กัน จอมพลัง” ขนเครื่องเสียงเปิดซาวด์ผี-เครื่องบินรบ ละเมิดหรือไม่ หวั่น แม้เป็นเจตนาดี แต่อาจถูกมอง รัฐไทยให้การสนับสนุนได้ ห่วงเพลี่ยงพล้ำเวทีโลก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัน จอมพลัง อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง นำเครื่องเสียงไปเปิดเสียงผีและเครื่องบินรบ รวมถึงฉายหนังกลางแปลงยุคที่ชาวกัมพูชาเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย ว่า ตนเชื่อว่าประชาชนทุกคนที่เป็นคนไทยอยากจะช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนเรื่องเสียงสะท้อนที่ออกมาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือนายกัน จอมพลัง ก็ตาม ที่อยากจะช่วยเหลือคนไทย ให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบจากประเทศกัมพูชา หรือช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการบริหารจัดการให้ทุกความช่วยเหลือ ทำให้ทุกการช่วยเหลือมีแต่การยกระดับทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น ไม่ได้ทำให้ไทยเพลี่ยงพล้ำหรือเสียเปรียบในเวทีโลก
เมื่อถามว่า การปล่อยคลิปเสียงผี จะปลุกกระแสชาตินิยม จนทำให้ควบคุมไม่ได้มากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยังยืนยันว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว เป็นพื้นที่ที่ประกาศกฎอัยการศึก การที่มีภาคประชาชนเข้าไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งก็มีบางส่วนมีข้อห่วงใยว่าจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาต่อพลเรือนฝั่งตรงข้ามโดยตรง จึงปฏิเสธได้ว่าหน่วยงานความมั่นคงและรัฐบาลจะต้องเป็นผู้มีความรับผิดชอบโดยตรง เพราะเป็นพื้นที่ควบคุม
เมื่อถามว่า จะทำให้การต่างประเทศของไทยเดินหน้ายากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องถามไปยังนายกรัฐมนตรีหรือนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่อัยการศึก การที่รัฐบาลปล่อยให้มีการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นการดำเนินการที่มีเจตนาดี จะถือว่าหน่วยงานภาครัฐประเทศไทยให้การสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวที่อาจจะละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ แล้วจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเวทีการต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งคำถามนี้เชื่อว่าเป็นคำถามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศต้องตอบให้ชัด







