‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

เลือกตั้งซ่อมกาญจนบุรี เขต 4 วัดพลังสองค่ายใหญ่ก่อนเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 69 “เพื่อไทย” นำโดย “หมอหนุ่ย” ต้องหยุดอำนาจ “ศักดิ์ดา วิเชียร์ศิลป์” ไม่ให้ยึดกุมเมืองกาญจน์

KEY

POINTS

  • เลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 เป็นการสู้กันระหว่างพรรคเพื่อไทย นำโดยกลุ่ม "พลังกาญจน์" ของ สุรพงษ์ ปิยะโชติ กับพรรคภูมิใจไทยของ "ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์" อดีต สส. ที่ย้ายขั้วการเมือง
  • พรรคเพื่อไทยส่ง "พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช" ลงแข่งขันกับ "วิสุดา วิเชียรศิลป์" ลูกสาวของศักดิ์ดา ซึ่งลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยเพื่อรักษาเก้าอี้เดิม
  • ยุทธศาสตร์ของเพื่อไทยหยุดยั้งอำนาจอิทธิพลของพรรคภูมิใจไทย  ไม่ให้ "กินรวบ" พร้อมปลุกกระแสงูเห่า เพื่อรักษาฐานที่มั่นของตัวเอง
  • ภูมิใจไทยได้เปรียบตรงยึดกุมอำนาจรัฐ-กระทรวงมหาดไทย และอาจได้เสียงจากพรรคการเมืองอื่นในพื้นที่เทให้

ศึกเลือกตั้งซ่อม จ.กาญจนบุรี เขต 4 อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และ อ.บ่อพลอย (ยกเว้นตำบลหนองกุ่ม)ครั้งนี้ วันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค. 2568 จะเป็นการวัดพลังก่อนนับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ในต้นปี 2569 ระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย

เมื่อแชมป์เก่า อย่าง “ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” แปร์พักตร์ตีจากพรรคเพื่อไทย แตกหักนายใหญ่-นายน้อย ไปสวามิภักดิ์ “ค่ายครูใหญ่” ภูมิใจไทยด้วยการอุ้มชู “เสี่ยหนู” เป็นนายกฯ คนที่ 32

โดย“ศักดิ์ดา”ถึงขั้นวางตัวลูกสาว “วิสุดา วิเชียรศิลป์” ไปแอบสมัครสมาชิกพรรคสีน้ำเงินไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ครบเกณฑ์สังกัดสมาชิกพรรคการเมือง 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า แดงเพื่อไทย ในทีม “พลังกาญจน์” ภายใต้การนำของคีย์แมนคือ “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” อดีต รมช.คมนาคม และมือขวาอย่าง นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายก อบจ.กาญจนบุรี พร้อมขุมกำลัง สส.อีก 3 เขต ทั้ง อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ชูศักดิ์ แม้นทิม พนม โพธิ์แก้ว รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร สส. พลอย ธนิกุล จะร่วมกันลงไปหาเสียงช่วยบิ๊กชิน “พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช” ผู้สมัคร หมายเลข 2 ของพรรคเพื่อไทย เพื่อรักษาฐานที่มั่นสีแดงไว้ให้กับพรรคค่ายแดง

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นที่รับรู้ของคอการเมืองโซนตะวันตกว่า จะเป็นการวัดพลังกระแสพ่วงทั้งพลังกระสุน ไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งซ่อม ศรีสะเกษ เขต 5 ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเพื่อไทย เพิ่งพ่ายให้พรรคภูมิใจไทยโดยมีคะแนนเท่าทุนไม่ได้แพ้ขาดลอยมากนัก

ศึกเลือกตั้งซ่อม กาญจนบุรี เขต 5 จากเดิมที่มีการประเมินว่า “ศักดิ์ดา” ที่มีกลไกอำนาจรัฐ บวกต้นทุนนั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย จะกุมความได้เปรียบอาจจะชนะ 

แต่เมื่อสถานการณ์และบริบทไม่เหมือนเดิม คะแนนความนิยมจากผลโพล “นิด้าโพล”ช่วงสิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตัวคะแนนพรรคแดงยังเหนือกว่าค่ายน้ำเงินไม่มากนัก ทำให้ “ศักดิ์ดา” ซึ่งส่งลูกสาวลงป้องกันเก้าอี้ สส.อาจจะเป็นไปได้ทั้งแพ้และชนะในอัตรา 50 ต่อ 50

ว่ากันว่า วงเดิมพันก็ตั้งราคากันในอัตรา 1 ต่อ 1 คือ สูสี เป็นได้ทั้งสองค่ายที่จะชนะหรือแพ้

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

วันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค. 2568 คอการเมืองแถบประจิม จึงได้เห็น “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ควงแกนนำพรรคน้ำเงิน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยลูกสาวศักดิ์ดา เพราะเกรงว่าการชนะศึกครั้งนี้ไม่ได้หมูเหมือน จ.ศรีสะเกษ โดยที่ผ่านมาพรรคน้ำเงินเปิดปราศรัยใหญ่ 2 ครั้งโดยอาศัยกระแสพรรคน้ำเงินมาเพิ่งเข้ามาเป็นรัฐบาล

ขณะที่พรรคเพื่อไทย วางคีย์แมนนักปราศรัย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดิศร เพียงเกษสส.บัญชีรายชื่อ ปราศรัยใหญ่ใน เขต 4 และในช่วงโค้งสุดท้ายจับตาให้ดีว่า “นายน้อย” อดีตนายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่เปิดปราศรัยใหญ่ก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่

ขณะเดียวกัน “พรรคภูมิใจไทย” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาชนะ พล.อ.ชินวัฒน์ ให้ได้ เพื่อหยุดการครองอำนาจของฝั่ง “หมอหนุ่ย” และบ้านใหญ่เมืองกาญจน์

ต้องยอมรับว่าค่ายน้ำเงินจะได้เปรียบในฐานเสียงที่มั่นเดิมที่เป็นของ ศักดิ์ดา ซึ่งเคยเอาชนะผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ลำยอง ยิ้มใหญ่หลวง โดยได้รับเลือกตั้งท่วมท้น 45,812 คะแนน ขณะที่ฐานเสียงพรรคลุงป้อมมี 27,466 คะแนน ส่วนพรรคส้มมีฐานเสียงเมื่อปี 2566 อยู่ 16,125 คะแนน และมีโอกาสสูงที่พรรคพลังประชารัฐจะเทเสียงให้ฝั่งน้ำเงิน

ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะใช้ยุทธศาสตร์หยุดอำนาจ “ภูมิใจไทย” ตลบหลังงูเห่า ต้านน้ำเงินกินรวบเมืองกาญจน์ จนนำไปสู่การขยายผลต่อยอดเพื่อยึดกุม จ.กาญจนบุรีในอนาคต โดยเน้นปราศรัยเจาะไปที่แต่ละตำบล รวมทั้งจะเปิดเวทีช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อโหมกระแสว่า “ศักดิ์ดา” ไม่ให้เกียรติชาวบ้าน เขต 4 เป็นงูเห่า ลาออก สส.เพื่อไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีกับขั้วตรงข้าม

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

เพื่อไทย เมืองกาญจน์ มองว่า แม้ตัวนายน้อยจะกระแสนิยมตกลง แต่ก็ควรลงพื้นที่ตอกย้ำกระแสพรรคสีแดงหลังก่อนหน้านี้ต้องงดลงพื้นที่หาเสียงเพราะต้องไปช่วยน้ำท่วมที่ จ.อุตรดิตถ์ เพราะพื้นที่เมืองกาญจน์ยังเป็นกระแสของพรรคเพื่อไทย คือ แดงเกือบทั้งจังหวัดด้วยกลไกท้องถิ่นที่แข็งแรง เพราะทีมพลังกาญจน์ ที่มีสรรพกำลังจากค่ายทุนยักษ์ใหญ่หนุนหลัง

‘พยัคฆ์หนุ่ย’ ต้าน ‘ศักดิ์ดา‘ - ‘พลังกาญจน์’หยุด ‘น้ำเงิน’กินรวบ

ย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 14 พ.ค. 2566 พรรคเพื่อไทย กวาด สส.ได้ 4 เขต จากทั้งหมด 5 เขต ได้แต้มภาพรวม สส.เขตมาเป็นอันดับ 1 จำนวน 177,470 คะแนน ขณะที่ภูมิใจไทยได้ สส.เพียง 1 เขต ได้คะแนนสส.เขต ทั้งจังหวัด จำนวน 81,643 คะแนน

ต้องยอมรับว่าปัจจัยการเลือกตั้งซ่อม ไม่เหมือนการเลือกตั้งใหญ่ เพราะไร้จำนวนคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ต้องอาศัยการออกแรงประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านไปเลือกตั้งให้มากที่สุด ซึ่งหากได้จำนวนผู้มาใช้สิทธิสูงกว่าร้อยละ 60 ก็ถือว่าตื่นตัวแล้ว

ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อไทยยังได้เปรียบตรงกลไกท้องถิ่นที่เป็นฝั่งของ “พยัคฆ์หนุ่ย” ขณะที่ พรรคภูมิใจไทยถือแต้มต่อตรงครองอำนาจรัฐและฝ่ายบริหารยาวๆจนสิ้นสุดเลือกตั้งใหญ่ โดยมี “สิงห์น้ำเงิน” ศักดิ์ดา นั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย

ศึกเลือกซ่อมครั้งนี้จะเป็น “พยัคฆ์” หรือ “สิงห์” ผงาดมณฑลประจิม ไม่ว่าค่ายไหนชนะ ย่อมได้เปรียบเป็นบันไดต่อยอดกินรวบอำนาจเมืองกาญจน์ ต่อไปในอีก 4 ปีข้างหน้า