พปชร. ชี้ แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา รัฐบาลมาถูกทาง เผย 'บิ๊กป้อม' หนุนสร้างรั้ว

พปชร. ชี้ แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา รัฐบาลมาถูกทาง เผย 'บิ๊กป้อม' หนุนสร้างรั้ว

พปชร. ชี้ แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา รัฐบาลมาถูกทาง เผย "บิ๊กป้อม" เห็นด้วยสร้างรั้วชายแดน ควบคู่การกอบกู้ศักดิ์ศรีของประเทศและรักษาไว้ซึ่งผืนแผ่นดินไทย

11 ต.ค. 68 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พลังประชารัฐ  กล่าวว่า “วันนี้  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ได้มาทอดกฐินที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  และเยี่ยมเยียนประชาชนที่มาร่วมทำบุญดังกล่าว  ได้กล่าวชื่นชม รัฐบาลมาถูกทางแล้ว  แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก  โดยการนำคนนอกที่เป็น “มืออาชีพ” มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นกระทรวงหลัก ที่มีผลต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน  และมีผล ต่อการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ  ซึ่งมีความแตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา  มุ่งหวังการแจกเงินเพื่อกระแสประชานิยม  ไร้ทิศทาง  และไม่เกิดผลในการพัฒนาประเทศแต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์ปัญหาชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา  นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใช้กลไกของกองทัพ สภาความมั่นคง ควบคู่กับกลไกของกระทรวงการต่างประเทศ ผนึกกำลังในการแก้ไขปัญหา ในรูปแบบร่วมมือกันแบบไร้รอยต่อ โดยให้กองทัพเป็นหลักมีอำนาจในการตัดสินใจดำเนินการขับเคลื่อนให้การปฏิบัติการในพื้นที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว ที่มองทหารและกองทัพเป็นฝ่ายตรงข้าม และเห็นฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเดียวกัน ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายเช่นทุกวันนี้   

สำหรับการแก้ไขปัญหาแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา นั้น  พล.อ.ประวิตร  เห็นด้วยกับทางกองทัพ  ที่จะทำกำแพงกั้นระหว่างไทย-กัมพูชา  ซึ่งอาจจะเป็นกำแพง พร้อมด้วยรั้วที่ใช้เทคโนโลยีหรือเอไอ เข้ามาร่วมตรวจจับความเคลื่อนไหว โดยสามารถดำเนินการก่อนในพื้นที่ที่มีการปักปัน หรือมีการตกลงอาณาเขตกันเรียบร้อยแล้วก่อนได้เลย ซึ่งเรามีหลักเขตการปักปันเขตแดนเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยใช้หลักคอนกรีต ปัจจุบันมีหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก  ตรงไหนตกลงกันได้เรียบร้อย  ก็ทำรั้วได้เลย  ตรงไหนที่ยังมีปัญหา สามารถเว้นไว้เพื่อเจรจา กันต่อไป  ในส่วนตัว พล.อ.ประวิตร เป็นทหารมาทั้งชีวิต  เคยรับราชการเป็นผู้บัญชาการทหารบก  เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  และรองนายกฯ ดูแลงานด้านความมั่นคง  สามารถให้คำแนะนำได้ตลอดเวลา 

การที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก ควบคู่การกอบกู้ศักดิ์ศรีของประเทศและรักษาไว้ซึ่งผืนแผ่นดินไทย  เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว มั่นใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยดี พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า

พล.อ.ประวิตรฯ ได้ดูสถานการณ์ และปริมาณน้ำ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในขณะนี้ มีปริมาณสูง บางพื้นที่ขึ้นถึงริมตลิ่ง และเริ่มท่วมขังบ้าง อยากฝากรัฐบาลเน้นย้ำเรื่องระบบการเตือนภัยให้รวดเร็ว และมีแผนเป็นรูปธรรม  ตลอดจนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบตามแบบที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำรัฐบาลในช่วงแปดปี  ไม่มีน้ำท่วมใหญ่ในประเทศแต่อย่างใด และฝากเร่งรัด ติดตามการก่อสร้าง “โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร” ความยาว 22.5 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 

คาดว่าจะเสร็จปีหน้า (2569 ) ซึ่งจะ ช่วยแก้ไข ปัญหาอุทกภัย น้ำท่วม ในพื้นที่ ตอนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งด้วยการเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้ง ได้อีกด้วย  และฝากแผนระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภายใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยว  โบราณสถาณสำคัญ และเป็นสถานที่ที่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  โดยอาจจะทำเขื่อนหรือผนังกั้นน้ำ ควบคู่กับประตูน้ำในการกั้นและระบายน้ำตามแบบประเทศเนเธอร์แลนด์  เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถานที่  และโบราณสถานต่างๆในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ