'พล.อ.สมศักดิ์' วางบทบาทคณะพูดคุยสันติสุข อย่าคล้อยตามมาเลเซียเกินไป

'พล.อ.สมศักดิ์' วางบทบาทคณะพูดคุยสันติสุข อย่าคล้อยตามมาเลเซียเกินไป

"นายกฯ" มั่นใจ ทีมพูดคุยสันติสุขคืบหน้า เข้มการข่าว บอกไม่มีช่วงทดลองงาน ด้าน “พล.อ.สมศักดิ์” เล็งกำหนดบทบาทฝั่งไทย หลังคล้อยตามมาเลเซียเกินไป

11 ต.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ว่าตนได้รับฟังสถานการณ์ในพื้นที่ และได้ให้ความมั่นใจกับทุกหน่วยงานว่า ขอให้บูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่ ตนที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ขอให้การทำงานกลับมาเป็นหนึ่งเดียวเหมือนอดีต และการบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด ยกระดับการทำงานด้านการข่าวเน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อถามถึงกรณีแต่งตั้งพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำงานร่วมกับ พล.อ.สมศักดิ์ มานานตั้งแต่เป็นเลขาธิการ สมช.  เมื่อ รมว.กลาโหม เสนอชื่อมา ก็มั่นใจว่า จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพและมีประสบการณ์การทำงานมั่นใจว่าการเจรจาสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับความเป็นห่วงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนเป็นห่วงความปลอดภัยประชาชน แต่ไม่ห่วงเรื่องความสามารถของกองทัพไทย ความสามารถในการดำเนินเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ห่วงเรื่องตวามตั้งใจของตน ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้ารัฐบาลในทุกภารกิจ ที่จะทำให้ผลลัพธ์บรรลุผลสำเร็จ

ด้าน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะพูดคุยว่า ขณะนี้รอคำสั่งอยู่ เมื่อคำสั่งเสร็จแล้วก็จะมีองค์ประกอบที่คล้าย ๆ กับของเดิม โดยตนจะเชิญผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วม โดยนายกฯ ระบุว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาภาคใต้ขอให้ทำในภาพรวมหมายความว่า การพูดคุยก็เป็นส่วนหนึ่ง และมีองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น การทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.) กองทัพ ตำรวจ กระบวนการยุติธรรม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และอีกหลายองค์ประกอบ 

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า หน้าที่ของตนคือการไปช่วยบูรณาการให้สิ่งเหล่านี้ไปทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพูดคุย เพราะหากไปพูดคุยเพียงลำพังก็จะไม่มีหน้าตักที่จะไปคุยกับเขา ฉะนั้นเราจะต้องใช้องคาพยพทุกๆ ฝ่ายซึ่งตนจะดูเฉพาะระหว่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน กอ.รมน. ภาค 4 จะดูภายในประเทศ ส่วนที่เป็นรอยต่อตรงกลางกองทัพจะเข้ามาช่วยดูแล

เมื่อถามว่า มาเลเซียยังจะเป็นผู้อำนวยการสะดวกใช่หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เรามีเวลาไม่มากนักก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ก็ต้องใช้บริการเขาไปก่อน และต้องบอกให้เขาเห็นถึงความจำเป็นที่เราจะต้องกำหนดบทบาทฝั่งไทยให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราจะไปคล้อยตามเขามากเกินไป ก็ต้องมีความเข้มข้นฝั่งเราให้มากขึ้น หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมืออำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอาจจะต้องคุยกับเขาอีกครั้ง เพราะในช่วงนี้ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลามากเท่าไหร่ก็ต้องใช้บริการเขาไปก่อน

เมื่อถามว่า คณะพูดคุยจะมุ่งเจรจาไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า จะพยายามพูดคุยกับทุกๆ กลุ่ม แต่กลุ่มบีอาร์เอ็นมีการพูดคุยกันมาซักพักใหญ่แล้วก็ต้องพูดคุยกับเขาก่อน แต่ไม่ได้แปลว่าจะเป็นกลุ่มเดียวที่เราจะพูดคุยด้วย ถ้ามีความคืบหน้าอะไรจะมีการแจ้ง