จับตา ไทย-กัมพูชา ถกแผนถอนอาวุธหนัก 15 -17ต.ค. 'ทภ.2' ลั่น ต้องทำได้จริง

ทภ.2 ตรวจพบ “กัมพูชา” ขยับหลายจุด หลังขน ยุทโธปกรณ์เข้าแนวชายแดนประจันหน้าไทย จับตา ถก แผนถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด 15 -17ต.ค. ย้ำ ต้องปฏิบัติได้จริง
11 ผู้สื่อข่าวรายงาน วานนี้ (10 ต.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 14.00 น.
มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณช่องอานม้า 3 ลำ , ช่องโดนเอาว์ 1 ลำ , ปราสาทตาควาย 2 ลำ และช่องโอบก 7 ลำ
อีกทั้งยังตรวจพบกลุ่มควันสีขาวบริเวณหลังภูผี คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องรถถังอยู่กับที่ และตรวจพบรถบรรทุก 22 ล้อ ขนาดใหญ่คลุมผ้าใบสีดำ 1 คัน มุ่งหน้าไปยังพื้นที่แนวชายแดน คาดว่าอาจจะบรรทุกยุทโธปกรณ์ทางทหาร
ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 มุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ชาติ เตรียมการประชุม RBC ไทย-กัมพูชา อย่างรอบคอบ นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมการประชุมคณะกองเลขานุการฯ ตามคำเชิญของฝ่ายกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางการเตรียมความพร้อมในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee – RBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ
โดยครั้งนี้ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ การประชุมมี พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายไทย และ พลจัตวา นิต ณารงค์ รองเสนาธิการภูมิภาคทหารที่ 4 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายกัมพูชา โดยได้หารือและพิจารณาประเด็นสำคัญร่วมกัน ดังนี้
1.ยืนยันให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC
2.การกำหนดวันและเวลาการประชุมใน ห้วงวันที่ 15 -17ตุลาคม 2568
3.การจัดสถานที่ประชุม ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดย กัมพูชาเป็นเจ้าภาพหลัก
4.การพิจารณาระเบียบวาระ และสาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย แผนการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักกลับสู่ที่ตั้งปกติ ที่มีรายละเอียดสามารถปฏิบัติได้จริง ภายใต้การสังเกตการณ์และการตรวจสอบของกลุ่มประสานงาน (CG) รวมทั้ง ยืนยัน ความร่วมมือในการกำจัดทุ่นระเบิดตามหลักมนุษยธรรม
ทั้งนี้ การประชุม RBC ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือ เสริมสร้างความเข้าใจ และธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคงและสันติสุข
กองทัพภาคที่ 2 ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่า ฝ่ายไทยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและมุ่งมั่น เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ความปลอดภัยของประชาชน และอธิปไตยของชาติไทยอย่างเต็มกำลัง
“กองทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดทำหน้าที่ เพื่อความมั่นคงของชาติไทย และความผาสุกของประชาชนทุกคน”







