แคนดิเดตนายกฯ นอก‘ชินวัตร’ ลุ้นดีล ‘ลูกท็อป’ สูตรควบเฉพาะกิจ

จับตาสถานการณ์ ตระกูลชินวัตร เฟ้นหาแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ลุ้นดีลทาบ “วราวุธ ศิลปอาชา” จากพรรคชาติไทยพัฒนา
KEY
POINTS
- พรรคเพื่อไทยกำลังวางแคมเปญเพื่อฟื้นแต้มนิยมพรรคไม่ให้เป็นพรรคต่ำร้อย โดยวาง "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" เป็น ผอ.การเลือกตั้ง
- พรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่ไม่ใช่นามสกุล "ชินวัตร" เพื่อแก้ปัญหากระแสความนิยมของพรรคที่ลดลง
- มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยทาบทาม "วราวุธ ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้มาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ
- จับตาหลังยุบสภา คนชินวัตรวางยุทธศาสตร์ "ควบรวมเฉพาะกิจ" กับพรรคพันธมิตร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและรับมือการเลือกตั้งครั้งหน้า
ถูกที่ถูกเวลา ตรงสรรพคุณ ตรงสเปกกับขุนพล สส.พรรคเพื่อไทย เป็นอย่างยิ่งในชั่วโมงนี้ หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศแต่งตั้ง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตรองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เพื่อทำศึกเลือกตั้งใหญ่ในปีต้นปี 2569 สู้กับพรรคหลายก๊ก เป็นการวางแม่ทัพใหญ่ที่ถูกใจ บรรดาสส.พรรคเพื่อไทย ที่สุด
สรรพกำลังของ “เดอะซัน” ไม่ธรรมดา ยุทธจักรคนการเมืองต่างรับรู้ถึงอานุภาพของบิ๊กเพื่อไทยรายนี้ ที่พร้อมไปด้วยกลไก สส. อาวุธหนักในการเข้าถึงพื้นที่ชาวบ้าน โดยเฉพาะภาคอีสาน ที่ประกอบด้วยนักเลือกตั้งบ้านใหญ่เป็นจำนวนมาก
คาดว่าในมือของ “เดอะซัน” มี สส.เกรดเอ ไม่ต่ำกว่า 30 สส. รวมทั้งมีมือขวามือซ้ายล้อมหน้าล้อมหลัง มีขุนพลแม่ทัพอีสานที่เป็นระดับอดีตเสนาบดีคอยเป็นมือทำงานให้ “เดอะซัน” อย่างเข้มแข็ง
การขยับออกหน้าในตำแหน่ง ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย จะช่วยตรึง สส.ที่โลเล ชะงักก่อนหน้านี้ มีแนวคิดหักหน้า“นายน้อย”นาทีสุดท้ายตอนยุบสภา ให้เปลี่ยนใจอยู่ต่อกับค่ายแดง หาก สส.เหล่านี้ไม่คิดตีจากพรรคนายแล้ว ก็อาจส่งผลให้ขุมกำลัง สส.เดอะซัน อาจมีมากเกินกว่า 50 เสียง และส่งสัญญาณถึงนักเลือกตั้ง ที่มีฐานเสียงแน่นหนา เดินเข้าสู่พรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมอีก
แน่นอน การผนึกกันระหว่าง “นายน้อย-นายสุริยะ” ทำให้ สส.ค่ายแดง บางส่วนมั่นใจว่า พรรคกระแสยังไม่ถึงขั้นร่วงดิ่งต่ำกว่า 100 เสียง ขณะที่ สส.บางส่วน ก็ยังไม่เชื่อมั่นกับคะแนนนิยมของพรรค และโอกาสการเป็นเบอร์ 1 จัดตั้งรัฐบาล
ขณะที่ สส.หลายคนในบางกลุ่มยังไม่ตัดสินใจจะอยู่ต่อ หรือตีจาก เพราะตราบใดที่เสียงยุบสภาเกิดขึ้นแล้ว วันนั้นคงได้เห็น สส.บางส่วนเดินออกจากพรรคไปเปิดตัวค่ายอื่นขั้วตรงข้ามได้
มี สส.เกรดเอ อีสานใต้ บางรายถึงขั้นมีกระแสลือว่า อาจย้ายพรรคปันใจไปอยู่ค่ายน้ำเงิน แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจในช่วงหลัง เพราะพื้นที่ สส.ในบางเขตนั้น แฟนคลับเพื่อไทยยังหนาแน่น อีกทั้งเป็นคนเสื้อแดง ที่ภักดีต่อพรรคมาโดยตลอด เข้าตำรา “รักทักษิณ” สุดหัวใจ ไม่ยอมเปลี่ยนใจไปกาพรรคอื่น
ยุทธศาสตร์ “เดอะซันโพล” รอบนี้ สส.ข้างกายนายสุริยะ ประเมินโดยความเห็นส่วนตัวว่า พรรคไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต แต่ให้เน้นเจาะพื้นที่ไปที่จังหวัด และเขตที่เข้าเป้าแน่นอนเป็นหลัก เพราะบางจังหวัดบางเขต สส.ค่ายน้ำเงิน เจาะได้ยากมาก เพราะสรรพกำลัง และอาวุธหนักเต็มสูบ สอบตกยาก เขตแบบนี้ไม่ควรเปิดหน้าสู้เต็มที่ ควรไปเจาะเขตที่เข้าเป้าแทน
ภาพรวมยุทธศาสตร์พรรค จะเป็นบทบาทของ หัวหน้าอิ๊งค์ และคีย์แมนรอบข้าง ที่เป็นมือคิด“แคมเปญ” ต้องโดนใจฐานเสียงให้ได้ เพราะแน่นอนว่า แต้มกระแสพรรคจะหายไปส่วนหนึ่ง จากปมปัญหาคลิปเสียงฮุน เซน
จุดอ่อนของ “แพทองธาร” ทำให้ “ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทย” ต้องลบภาพจำความสนิทชิดเชื้อระหว่าง “ตระกูลชิน - ตระกูลฮุน” โดย “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ยอมรับด้วยตัวเองว่ามีการทาบทาม 3 แคนดิเดตนายกฯ มาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย โดยไม่ใช่ “คนตระกูลชินวัตร”
โดยมีกระแสข่าว “บิ๊กเพื่อไทย” ทาบทาม “เดอะท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้เข้ามาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ว่ากันว่ามีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ทางหนึ่ง “วราวุธ” ยังต้องการรักษาพรรคชาติไทยพัฒนาเอาไว้ เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับมรดกตกทอดจาก “พ่อเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ผู้ก่อตั้งพรรคชาติไทยพัฒนา ผู้สร้างฐาน “เมืองสุพรรณ” ให้เป็นฐานเสียงอันเหนียวแน่นของ “ตระกูลศิลปอาชา”
หาก “รุ่นลูก” ทิ้งแบรนด์ของ “รุ่นพ่อ” อาจจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงที่ผูกพันกับ “พ่อบรรหาร” หากย้ายไปซบ “พรรคเพื่อไทย” แล้วไม่ประสบความสำเร็จ การหันหลังกลับมาเคลื่อน “พรรคชาติไทยพัฒนา” อีกคำรบคงยาก
ทางสองหาก “วราวุธ” ต้องการเดินตามรอย “พ่อบรรหาร” เก้าเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ จำเป็นที่ต้องย้ายพรรค เพราะยากมากที่พรรคชาติไทยพัฒนา จะมีโอกาสได้ สส. 25 คนขึ้นไป เพื่อสามารถส่งคนในบัญชีโหวตเลือกนายกฯในที่ประชุมสภาฯได้
ทางสองแพร่งของ “วราวุธ – ตระกูลศิลปอาชา” จึงอยู่ที่การตัดสินใจขับเคลื่อนการเมืองในรอบนี้ ซึ่งมีเดิมพันอดนาคตทางการเมืองสูงลิบเช่นกัน
ขณะที่ “ชินวัตร - เพื่อไทย” ยังต้องคิดหนักว่าจะเลือกใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะหากยังยึดติดกับ “ตระกูลชินวัตร” โอกาสที่จะปลุกกระแสจะเหลือน้อยลง เพราะยังติดกับภาพ ตระกูลชิน - ตระกูลฮุน แม้จะแตกหักกันไปแล้ว แต่ภาพหวานวันเก่า จะถูกหยิบมาดิสเครดิตทางการเมือง
อีกทั้งยุทธศาสตร์ของ “ทักษิณ - ตระกูลชินวัตร” ในวันที่พรรคเพื่อไทยอ่อนแอ มักจะเปิดดีลควบรวม “พรรคพันธมิตร” เพื่อผูกให้อยู่กับ “ค่ายสีแดง” หากปล่อยให้แยกตัวลงสนามเลือกตั้ง ถึงวันที่ต้องจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีอะไรการันตีว่าจะอยู่ร่วมขั้วเดียวกัน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีกระแสข่าว “เจ้าของพรรคเพื่อไทย” เปิดดีลควบรวม “พรรคชาติไทยพัฒนา” ด้วยการยื่นดีลให้ “วราวุธ” เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ เปิดทางควบรวม “พรรคชาติพัฒนา” ด้วยการชักชวน “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” เคลื่อนกำลังมาอยู่ร่วม “ค่ายสีแดง”
หลังจากนี้จับตาความเคลื่อนไหวของ “ตระกูลชินวัตร - เพื่อไทย” ในการแก้เกมกระแสตก เพื่อปลุกความนิยมกลับมาใหม่ ยุทธศาสตร์แคนดิเดตนายกฯที่ไม่ใช่ “คนชินวัตร” เป็นแผนหนึ่งที่อยู่ในใจของ “บิ๊กเพื่อไทย”






