พลิกตำรา ‘ม็อบ 3 นิ้ว’ รับสมรภูมิ ‘บ้านหนองจาน’

ฝ่ายไทยกำลังรอจังหวะปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ ส่วนกัมพูชาหวังใช้จังหวะดังกล่าวสร้างสถานการณ์คงความได้เปรียบในเวทีนานาชาติ จึงต้องจับตาว่า ฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน
KEY
POINTS
- ถอดบทเรียน แผนการดูแลม็อบนักศึกษา หรือม็อบ 3 นิ้ว ปี 2563-2564 ที่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
- ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 60 ตู้ ความยาวตู้ละ 6 เมตร สามารถวางแนวยาวได้ 360 เมตร ประจำอยู่ในพื้นที่บ้านหนองจาน
เหตุผลหนึ่งที่ “ผบ.เหล่าทัพ” เลือกใช้“กฎอัยการศึก” บังคับใช้กับชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย 3 พื้นที่ จ.สระแก้ว บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา รวมกว่า 200 ครัวเรือน
หวังคุ้มครองการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ 100% ป้องกันการฟ้องร้องที่จะตามมาภายหลัง ทั้งกรณีเรียกค่าเสียหาย คดีอาญา ลดขั้นตอนภาระกระบวนการยุติธรรม กรณีจับกุม ผลักดันออกนอกประเทศได้ทันที ขณะที่ พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เปิดช่องเอาผิดเจ้าหน้าที่ เรียกค่าชดใช้
เป็นเพราะ “ผบ.เหล่าทัพ” มีบทเรียนจากเหตุสลายการชุมทางการเมืองในอดีต ของกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นำไปสู่การฟ้องร้อง บางคดีศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว บางคดีก็ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ ยืดเยื้อคาราคาซังหลายปี
ทว่า ผบ.เหล่าทัพ ทราบดีว่า “กฎอัยการศึก” เป็นยาแรงเกินไป และกัมพูชาหวังใช้พื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว สร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงของไทย เพื่อไปโชว์ในเวทีนานาชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะความรุนแรงสูญเสียต่อพลเรือนกัมพูชา
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกจึงรับหน้าที่ จัดทำแผนปฏิบัติการ ระเบียบปฏิบัติประจำ และกฎการใช้กำลังที่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และกฎหมายของไทย ภายใต้เงื่อนไข ต้องทำด้วยความละมุนละม่อม
โดยเป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันระหว่างกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และเจ้าพนักงานตามกฎหมายต่าง ๆ กำลังประจำถิ่น สนับสนุนกำลังเพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร
พร้อมถอดบทเรียน แผนการดูแลม็อบนักศึกษา หรือม็อบ 3 นิ้ว ปี 2563-2564 ที่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก
รัฐมนตรี เรียกร้องให้ยุบสภาฯ หยุดคุกคามประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ จนลามไปถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
ขณะนั้นแม้รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีตำรวจรับผิดชอบหลัก แต่การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เหตุผู้ชุมนุมเป็นนักศึกษา และเยาวชน มีอายุไม่มากนัก จึงต้องดำเนินการด้วยความละมุนละม่อม
ในขณะที่ผู้ชุมนุมเลือกแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เคลื่อนขบวนไปยังสถานที่สำคัญในพื้นที่เขตพระราชฐาน เช่น วัดพระแก้ว สนามหลวง สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ชื่อปัจจุบันสำนักงานพระคลังข้างที่)
แม้เจ้าหน้าที่จะนำรถบัส รถเมล์ รั้วเหล็ก เป็นแนวกั้นไม่ให้ม็อบเคลื่อนขบวนไปยังพื้นที่เป้าหมาย แต่ถูกผู้ชุมนุมจุดไฟเผา ทำลาย จนนำไปสู่การสลายการชุมนุมด้วยรถฉีดน้ำจีโน่ แก๊สน้ำตา
ต่อมาตำรวจร่วมบูรณาการทำงานปูแผนป้องกันพื้นที่เขตพระราชฐาน ร่วมกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) มี พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ เป็น ผบ.พล.1 รอ. ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง “แม่ทัพภาคที่1”
เป็นที่มาการป้องกันพื้นที่ด้วยการซีลแนวรับ ด้วย “ตู้คอนเทนเนอร์-ลวดหนามหีบเพลง” ไม่ให้ม็อบเคลื่อนย้าย หรือทำลายได้ง่ายเหมือนรถบัส รถเมล์ รั้วเหล็กเหมือนที่ผ่านมา
อีกทั้งยังเป็นแนวกั้นป้องกันการเผชิญหน้าระหว่าง เจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงมวลชนอีกกลุ่ม ที่แสดงออกแสดงสัญลักษณ์ปกป้องสถาบันฯ จนสามารถป้องกันการกระทบกระทั่ง ไม่ให้นำไปสู่ความรุนแรง ในที่สุดการชุมนุมก็ยุติไป
ปัจจุบันตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 60 ตู้ ความยาวตู้ละ 6 เมตร สามารถวางแนวยาวได้ 360 เมตร ประจำอยู่ในพื้นที่บ้านหนองจาน คาดว่าจะนำมาใช้เป็นแนวกั้นป้องกัน หากมีการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ ไม่ให้บุกเข้ามายึดพื้นที่คืน และตู้คอนเทนเนอร์ทำลายได้ยาก ไม่เหมือนแนวรั้วลวดหนามควบคู่กับรถฉีดน้ำจีโน่อีก 10 คันบรรจุน้ำได้ 12,000 ลิตร/คัน มีกระบอกฉีดน้ำบนหลังคารถ ระยะฉีดสูงสุด 65 เมตร สามารถปรับระดับการฉีดได้รอบคัน รวมทั้งสามารถใส่สีในน้ำ เพื่อทำให้ผู้ถูกฉีดมีสีติดตามตัว และเสื้อผ้าเป็นที่สังเกตได้
นอกจากนี้ รถจีโน่รุ่นดังกล่าวยังติดตั้ง เครื่องเสียงความถี่สูงใช้ควบคุมฝูงชน LRAD (Long Range Acoustic Device) เป็นเครื่องขยายเสียงระดับไกลสำหรับใช้ปราบจลาจล โดยการส่งสัญญาณเตือนมวลชนไม่ให้บุกรุกเข้ามาในที่หวงห้าม พร้อมทั้งยังติดตั้งแก๊สน้ำตา โฟมดับไฟ
ส่วนล้อ เป็น “ล้อกันกระสุน” มีตะแกรงป้องกันกระจกรอบคัน มีคันกั้นเหล็กหน้ารถ ไว้เคลียร์พื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง โดยรอบตัวรถจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งรอบคันเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์รอบทิศทาง สามารถใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
หลังรับตำแหน่ง มทภ.1 พล.ท.วรยส ลงพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จำลองแผนซักซ้อมแผนการปฏิบัติระหว่าง “ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง” ปกป้องอธิปไตยชายแดนจังหวัดสระแก้วหลายรอบ
โดย 10 ต.ค.2568 นี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้แจ้งไปยังกัมพูชาจะลงพื้นที่เก็บกู้วัตถุระเบิดบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ตามข้อตกลงคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC)
ส่วนกัมพูชา จะนำคณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว พร้อม มวลชน ครอบคลุมไปถึง เด็ก สตรี คนชราเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ประเมินได้ว่า ฝ่ายไทยกำลังรอจังหวะได้เปรียบออกปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ ส่วนกัมพูชาหวังใช้จังหวะดังกล่าวสร้างสถานการณ์คงความได้เปรียบในเวทีนานาชาติ จึงต้องจับตาว่า ฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน







