'กมธ.' ถกร่างกม.อสม. เสร็จแล้ว ชงสภาฯ พิจารณาภายในสมัยประชุมนี้

'กมธ.' ถกร่างกม.อสม. เสร็จแล้ว ชงสภาฯ พิจารณาภายในสมัยประชุมนี้

"สมศักดิ์" เผยกมธ. ทำร่างกม.อสม. เสร็จแล้ว เชื่อสร้างขวัญกำลังใจ-ความมั่นคงให้ อสม. ชงเข้าสภาฯ พิจารณาวาระสอง-สาม ในสมัยประชุมนี้

ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแนวหน้าสุขภาพ พ.ศ. …. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวว่า ได้ทำเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมเสนอรายงานให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรจุวาระและพิจารณาภายในสมัยประชุมสภานี้ ส่วนสาระสำคัญของร่างกฎหมายกำหนดให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกลไกหลักในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และเชื่อมโยงประชาชนกับระบบบริการสุขภาพ ซึ่งผู้มีสิทธิเป็นอสม. ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 65 ปี ในวันสมัคร เมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้ว ให้มี สถานภาพเป็นอสม.ต่อเนื่องตลอดชีวิต เว้นแต่ลาออกหรือถูกถอดถอนตามเงื่อนไขที่กำหนด

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า พร้อมจัดให้มี คณะกรรมการส่งเสริมระบบอาสาสมัครสาธารณสุขระดับประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน จัดให้มี คณะกรรมการระดับเขตสุขภาพ ระดับจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อบริหาร กำกับ และสนับสนุนการดำเนินงานของอสม.ในพื้นที่ รวมถึงกำหนดให้มี คณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานอสม. เพื่อพัฒนาศักยภาพและกำหนดมาตรฐานการทำงานของอสม. และสนับสนุนการปฏิบัติงานของอสม. ด้วย เทคโนโลยี เช่น ระบบแพทย์ทางไกล  และข้อมูลสุขภาพที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ยังให้มีการจัดตั้ง บัญชีนอกงบประมาณ เพื่อใช้ในการส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกิจกรรมด้านสาธารณสุขในระดับชุมชน และกำหนดให้ อสม.ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม เช่น ค่าป่วยการ สวัสดิการ และการคุ้มครองระหว่างการปฏิบัติงาน

“ประเด็นของการเจ็บป่วยในประเทศ เราดูผู้ป่วยนอก 76% เป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารไม่ถูกสัดส่วนของร่างกาย คุณหมอคุณพยาบาลได้พยายามจัดการเรื่องนี้แล้วแต่ยังเป็นปัญหา ยังมีคนป่วยโรคนี้ถึง 33 ล้านคนทั่วประเทศ และต้องใช้งบประมาณที่ใช้รักษาโรคนี้ปีละ 80,000 ล้านบาท ผมคิดว่า ถ้าอสม.สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายนี้ได้ ควรจะมีส่วนแบ่งจากเงินที่ลดลงนี้ด้วย จึงต้องมีกฎหมายคุ้มครองอสม.เพื่อให้มีความยั่งยืนในเรื่องของการป้องกันโรค” นายสมศักดิ์ กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าสำหรับผลของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว คือ 1.ประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพในระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน 2.ประเทศไทยจะมีระบบการสาธารณสุขที่มั่นคงสามารถรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 3. อสม. ก็จะมีสถานะทางกฎหมายที่มั่นคงมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่จากหลักประกันด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ชัดเจนถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับระบบความ มั่นคงทางสุขภาพของประเทศในระยะยาว เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน และเพื่อความมั่นคงทาง สุขภาพของประเทศชาติต่อไป