ป.ป.ช.ยุคใหม่ ไม่เกี่ยวการเมืองสีน้ำเงิน ข้อเท็จจริงจะพิสูจน์

'เลขาธิการ ป.ป.ช.' ประกาศองค์กรปราบโกงยุคใหม่ ใช้เวลาสางคดีทุจริตไม่เกิน 2-3 ปี ลั่นไม่เกี่ยวการเมือง 'สีน้ำเงิน' ชี้ข้อเท็จจริงจะเป็นตัวพิสูจน์
KEY
POINTS
- ป.ป.ช. ยืนยันความเป็นกลาง ปฏิเสธข้อครหาว่าเกี่ยวโยงกับการเมืองสีน้ำเงิน โดยระบุว่าข้อเท็จจริงและเหตุผลทางกฎหมายในการวินิจฉัยคดีจะเป็นเครื่องพิสูจน์
- การทำงานในยุคใหม่จะปรับเปลี่ยนเป็นเชิงรุกมากขึ้น กำหนดกรอบเวลาไต่สวนคดีให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 ปี เพื่อให้การทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ป.ป.ช. จะมุ่งเน้นการตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวระหว่างพบปะสื่อมวลชน ประจำสำนักงาน ป.ป.ช. ถึงการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยุคปี 2569 ว่า บทบาทการทำงานในอนาคตข้างหน้าจะวางรูปแบบการทำงานเชิงรุกมากขึ้น ภาคการทำงานของ ป.ป.ช. ที่ถูกมองว่าช้าจะหมดไป จะมีการติดตามและรายงานเป็นระยะ ๆ ที่จะมีการปรับปรุง จะทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันใจภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย เรื่องการไต่สวนจะต้องกำหนดกรอบการทำงาน โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 2-3 ปี ในอนาคตเราจะมุ่งเน้นคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทบกับประชาชนค่อนข้างจะสูง เป็นเรื่องของสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน สาธารณะประโยชน์ เราจะมีมาตรการทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีสังคมตั้งข้อสังเกต คณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวโยงกับ การเมืองสีน้ำเงิน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของ ป.ป.ช. มีระบบถ่วงดุลกันเอง กรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนมีอิสระในการที่จะพิจารณาวินิจฉัยคดี ในส่วนของการตรวจสอบจากองค์กรภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสภาหรือวุฒิสภา เรามีการตรวจสอบจากภายนอกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องถือเป็นหลักคือความเป็นกลาง สิ่งที่มีข้อครหาคือ จุดที่จะพิสูจน์ความเป็นกลางว่าการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คือหลักการให้เหตุผลทางกฎหมาย ในการวินิจฉัยคดีแต่ละคดีที่ออกไป
"ขอยืนยันว่า ข้อเท็จจริงจะพิสูจน์ตัวมันเอง ในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย้ำว่าขอให้มั่นใจว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทุกท่าน มีที่มาซึ่งปัจจุบัน หลายๆ คนมีที่มามาจากตุลาการหรือผู้พิพากษา เพราะฉะนั้น ต้องมีคุณงามความดี เป็นที่ยอมรับจากคณะกรรมการสรรหา เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ ป.ป.ช. ให้เหตุผลออกไปจะไม่มีภาพในอดีตที่เปรียบเทียบถ้าเป็นชุดนี้ ยังเชื่อมั่นว่าการทำหน้าที่ของท่าน จะพิสูจน์สิ่งที่สังคมตั้งคำถามได้" เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าว







