'เจษฎ์' ชี้ร่างแก้รธน. ให้ เลือกตั้ง สสร. เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาล

'เจษฎ์' ชี้ร่างแก้รธน. ให้ เลือกตั้ง สสร. เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาล

"เจษฎ์" มองปมยื่นเอาผิดศาลรธน. ปมห้ามประชาชนเลือกตั้ง สสร. ไม่มีผลต่อคำวินิจฉัย พร้อมมองร่างแก้รธน. ให้ สสร.มาจากเลือกตั้ง เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.

นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (ConforAll)  ยื่นข้อกล่าวหาตุลากรศาลรัฐธรรมนูญ  จำนวน5 คน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 ก.ย.  ห้ามไม่ให้ประชาชนเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ถือเป็นการใช้กระทำที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ โดยมิชอบและก้าวล่วงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อสร้างข้อจำกัดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ว่า การยื่นดังกล่าวทำได้ แต่ไม่มีผลใดๆ ต่อคำวินิจฉัยที่ออกมาแล้ว เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้นใช้อำนาจโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการพิจารณาตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 มาจากการทำประชามติ ดังนั้นการวินิจฉัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องต้องทำให้สอดล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้

 

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐสภาเตรียมพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14-15 ต.ค. ทั้งนี้พบร่างแก้ไขบางฉบับกำหนดกลไกให้ ประชาชนเลือก สสร. โดยตรง ถือว่าขัดกับคำวินิจฉัยหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า กรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 นั้นสามารถเสนอได้ แต่ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนดรวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีที่กำหนดให้ประชาชนเลือก สสร. โดยตรง ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการขัดคำวินิจฉัยได้ เพราะจุดมุ่งหมายของการแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 256 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คือ ให้กลไกของรัฐสภาดำเนินการ แต่หากอยากได้ สสร. ต้องทำให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ  คือ การยึดโยงกับรัฐสภา

“มาตรา 256 นั้นล็อกไว้ให้รัฐสภาทำ แต่หากต้องการยกร่างใหม่ทั้งฉบับต้องไปทำประชามติ ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการที่กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่าศาลรัฐธรรมนูญตีความเกินเลย ดังนั้นอย่าเอาความอยากเป็นที่ตั้ง ในชั้นนี้รัฐสภาสามารถแก้ไขมาตรา 256 ได้ เพื่อกำหนดกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เมื่อมีการจัดทำแล้วต้องทำให้สอดคล้องกับที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และต้องส่งให้รัฐสภาพิจารณา” นายเจษฎ์ กล่าว