'ณัฐพงษ์' สวน'สุริยะ' มั่นใจปชน.กวาด20ล้านเสียง250ที่นั่งสส.

'ณัฐพงษ์' สวน'สุริยะ' มั่นใจปชน.กวาด20ล้านเสียง250ที่นั่งสส.

'ณัฐพงษ์' มองภูมิใจไทยดูดสส. ไร้สัญญาณเติ่มเสียงรัฐบาล หักMOA ขู่เกมพลิกเจอยื่นซักฟอกทันที สวน'สุริยะ' มั่นใจเลือกตั้งปชน.กวาด20ล้านเสียง 250ที่นั่งสส.

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นักการเมืองเริ่มเข้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จนเป็น พรรคภูมิใจดูด ว่า อาจจะเป็นเรื่องปกติที่พอเข้าใกล้ฤดูกาลเลือกตั้งจะมีการสลับขั้วย้ายค่ายกันบ้าง แต่รากฐานจริงของเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่า อยู่ที่ระบบการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นกลไกที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าจะทําให้เกิดการย้ายพรรคได้ง่าย เกิดสส.งูเห่าที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา

ฉะนั้น ถ้าเราอยากได้การเมืองที่ตรงไปตรงมา ก็ต้องกลับมาแก้ไขที่ระบบการเมือง ก็เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทําให้พรรคประชาชนให้ความสําคัญกับการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นว่าจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแต่อย่างใด คงไม่ปล่อยให้สถานการณ์ไหลไปถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดที่เราเล็งเห็นแล้วว่ามีความเสี่ยงหรือความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นรัฐบาลเสียข้างมาก เราก็คงจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อล้มรัฐบาลทันที

ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นประตูด่านแรก ที่จะเป็นจุดชี้วัดที่สําคัญ อีกหนึ่งด่านก็จะเป็นเรื่องการแก้ไขหมวด15/1 เสนอกลับเข้าสู่สภาในวาระที่สาม นอกจากเสียง สส. แล้วก็ต้องดูการสนับสนุนจากสว.ด้วยว่าตกลงแล้วทุกพรรคการเมือง รวมถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ที่เซ็นMOAว่าทำงานหนักแค่ไหนในการทำความเข้าใจกับสว.ในวาระที่3ของหมสด15/1

"เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยรวมถึงทุกพรรคการเมืองด้วย จะต้องหาจุดตรงกลางร่วมกันให้ได้ จุดยืนของพรรคประชาชนยืนยันว่าที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุดถ้าหาจุดตรงกลางหรือหาทางออกร่วมกันไม่ได้ก็เป็นสิ่งที่พรรคภูมืใจไทยไม่สามารถที่จะรักษาสัญญาณตามMOAได้" 

เมื่อถามว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรี มีการติดตามอยู่ต่อเนื่องหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็ยังติดตามอย่างต่อเนื่องสิ่งที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น และอยากฝากนายกรัฐมนตรีโดยตรง คือการกํากับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น รองนายกฯหรือรัฐมนตรีต่างๆ การอภิปรายในสภา เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรมีผลกระทบพาดพิงบุคคลสาธารณะ หรือใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาเล่นงานกัน ถ้านายกรัฐมนตรีมีหลักการเช่นเดียวกันกับพวกเรา เชื่อว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาน่าจะตักเตือนคนใต้บังคับบัญชาได้

ส่วนกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะทำงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีเขากระโดง และฮั้ว สว.ที่อาจจะมีเครือข่ายกับรัฐมนตรียืนยันว่า พรรคยังติดตามต่ออย่างใกล้ชิด ทั้งเวทีกระทู้ถามและกรรมาธิการ แตาสิ่งที่สำคัญคือ กระบวนการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งเรื่องที่เราพยายามป้องกันให้เกิดอํานาจโดยมิชอบ ป้องกันไม่ให้เกิดการทําลายอํานาจกระบวนการยุติธรรม ตนอยากให้การดําเนินคดีทุกอย่างตรงไปตรงมา

"ถ้าถึงจุดที่รัฐบาลกําลังจะใช้อํานาจโดยมิชอบ หรือทําลายกระบวนการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ทําให้เราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขความทเสียหายที่เกิดขึ้นได้อีก เราก็พร้อมจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ"

อย่างไรก็ดีตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากยื่นสภาได้ ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ อยู่ที่ว่าใครยื่นได้เร็วกว่ากัน หากพรรคไทยยื่นเอง เขาก็สามารถทําได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการทําให้ระบบการเมืองไทยสู่กลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ มีกลไกถ่วงดุลตรวจสอบที่ดี เป็นไปตามหลักสากล จึงไม่อยากให้ใช้เกมการเมืองในการตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อล้างแค้น

สิ่งหนึ่งที่สำคัญคืออยากให้พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะสำคัญกว่าเรื่องอื่น ต้องดูองค์ประกอบด้วย ถ้ามีการยุ่มย่ามหรือทำให้ประเทศเกิดความเสียหายจนไม่สามารถแก้ไขได้อีกถึงเวลานั้นก็คงค้องใช้กลไกตามมาตรา151 ต่อไป

หัวหน้าพรรคประชาชนย้ำว่า การทำงานของรัฐบาลขณะนี้เขาเองมีอิสระในฐานะฝ่ายบริหาร ส่วนเราเป็นฝ่ายค้าน แต่ทิศทางใหญ่ๆ ยังอยู่ในกรอบที่พรรคประชาชนโหวตเลือกนายอนุทินเป็นนายกฯ ยังอยู่ในกรอบที่เราประเมินไว้อยู่

ส่วนกรณีที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้ สส.200 ที่นั่ง และพรรคประชาชนจะได้ลดลงนั้นเป็นสิ่งที่ทุกพรรคประเมินว่าตัวเองได้เยอะอยู่แล้ว ตั้งเป้าหมายให้สูง

แต่เราเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งข้างหน้า เป้าหมายของเราได้ 20 ล้านเสียง อาจจะคํานวณเป็นที่นั่งไม่ได้ แต่หากสะท้อนอย่างตรงไปตรงมา ก็จะประมาณ 250 ที่นั่ง

อย่างไรก็ดีการเฟ้นหาผู้สมัครในการลงสมัครครั้งหน้าจะเป็นกระบวนการที่เข้มข้นมากเปิดให้สมาชิกประชาชนมีส่วนร่วม ช่วยกันสะท้อนเสียงออกมาให้ได้มากที่สุด