การเมือง‘ตลาดแตก’ แจกโปร สมรภูมิ‘อีสาน-ใต้’ ภท.'ภูมิใจดูด'

การเมือง“ตลาดแตก” เห็นชัดจากความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมือง ที่ทยอยเปิดตัว สส. ส่งสัญญาณเตรียมพร้อมไปสู่การเลือกตั้ง
KEY
POINTS
- พรรคภูมิใจไทย กำลังเดินเกมรุกหนักในการดึงตัว สส. และกลุ่มการเมืองจากพรรคอื่น หรือที่เรียกว่า "ภูมิใจดูด" เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง
- สมรภูมิการเมืองที่แข่งขันรุนแรงคือภาคอีสานและภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายหลักของพรรคภูมิใจไทยในการเพิ่มจำนวน สส.
- ในภาคอีสาน ภูมิใจไทยได้เปิดตัวอดีต สส. จากพรรคเพื่อไทย เช่น พงศกร อรรณนพพร (ขอนแก่น) และ โกศล ปัทมะ (นครราชสีมา) เข้าสังกัดพรรค
- สำหรับภาคใต้ ภูมิใจไทยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 30 ที่นั่ง และกำลังเจรจาดึงตัวนักการเมืองบ้านใหญ่ในหลายจังหวัด เช่น ตรัง และนครศรีธรรมราช
- นอกจากการดึง สส. จากพรรคเพื่อไทยแล้ว ภูมิใจไทยยังได้กลุ่มการเมืองจากพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามาเสริมทัพด้วย
ปรากฎการณ์การเมือง“ตลาดแตก” เห็นชัดจากความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมือง ที่ทยอยเปิดตัว สส. ส่งสัญญาณเตรียมพร้อมไปสู่การเลือกตั้ง
หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยระบุ คือ จะยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.2569 เมื่อรวมกับขั้นตอนที่ให้ กกต.จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน เท่ากับว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนมี.ค.-เม.ย.2569
เมื่อสำรวจตลาดการเมืองเวลานี้ จึงได้เห็นปรากฎการณ์ บรรดาพรรคการเมืองน้อยใหญ่ ต่างเดินเกม “ดีล-ดูด-ดึง”กันจ้าละหวั่น
พรรคภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล ที่กำลังอหังการ์กับคะแนนนิยม ที่แม้ไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่กราฟก็กำลังหักหัวขึ้น เวลานี้จึงเร่งเดินเกมเร็ว เปิดตัว“ซุ้มการเมือง” รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร โชว์ศักยภาพความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
อย่างที่รู้กันว่า เป้าหมายของภูมิใจไทยรอบนี้ คือการเป็น“พรรคเกินร้อย” เพื่อชิงเกมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นต้องเติมเสียงเผื่อเหลือเผื่อขาด หวังกวาดตั้งแต่เหนือจรดใต้ เพื่อมาเติมเสียง สานฝันสมการสีน้ำเงิน ส่ง “นายกฯหนู” เป็นนายกฯ สมัยสอง
วันที่ 7 ต.ค.จึงได้เห็นภาพการ“เกทับบลัฟแหลก” ระหว่าง 2 พรรค ฝั่ง“พรรคเพื่อไทย” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 190 คน ภายใต้แคมเปญ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” โชว์ศักยภาพพรรคแกนนำ
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน “ภูมิใจไทย” ก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครจากบ้านหลังเก่าสู่บ้านหลังใหม่ ในจำนวนนี้ มีทั้งในส่วนของเพื่อไทย ประกอบด้วย พงศกร อรรณนพพร อดีตสส.ขอนแก่น โกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา
ในส่วนของ“พงศกร”ที่เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย“พชรกร อรรณนพพร”ลูกชาย น่าสนใจว่า ขณะนี้ลูกสาวคือ“สรัสนันท์ อรรณนพพร”ยังเป็นสส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และเป็น 1 ใน 185 รายชื่อ ที่เพื่อไทยเปิดตัวในวันเดียวกัน นี้ จึงน่าจับตาว่า ที่สุดแล้ว ตระกูลนี้จะเดินการเมืองไปในทิศทางใด
ไม่ต่างจาก “2 ซุ้มรวมไทยสร้างชาติ” ทั้งซุ้มสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขน 16 สส. ประกาศความพร้อมลงสนามในนามภูมิใจไทย เช่นเดียวกับ ซุ้มเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรค ที่นำร่องไปด้วย"ซุ้มชุมพร" เรียบร้อยโรงเรียนสีน้ำเงินแล้ว
ที่เหลือยังต้องจับตา “ซุ้มเมืองหอยใหญ่” ของ“ชุมพล กาญจนะ เพราะรอบนี้ต้องชนกับ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว แห่งพรรคกล้าธรรม
ขณะที่ “ซุ้มสีฟ้า” ท่ามกลางกระแสย้ายพรรค ต้องจับตาไปที่ซุ้มปักษ์ใต้ อาทิ ซุ้มตรัง ของ “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธบ้านใหญ่เมืองตรัง
สำหรับสนามเมืองตรังที่ “พรรคภูมิใจไทย”วางตัวผู้สมัครชัดเจนแล้ว คือ
เขต 1 เอกพล ณ พัทลุง นายกฯ อบต.บ้านควน หลานชาย "กำนันนงค์" นาวาแก้ว อดีตกำนัน ตำบลบ้านควน ซึ่งรอบที่แล้วเป็นเมนสปอนเซอร์ให้กับ “ถนอมพงศ์ หลีกภัย”ลงชิงในนามรวมไทยสร้างชาติ
มารอบนี้ “กำนันนงค์” ปรับแผนใหม่ ดันหลานชายตัวเองไปลงแทน ขณะที่ “ถนอมพงศ์”อาจต้องปรับแผนใหม่ ไปลงชิงในนามพรรคกล้าธรรม
ขณะที่เขต 2 ทวี สุระบาล ชัดเจนว่า จะได้ลงเขตเดิม ในนามภูมิใจไทย
ส่วนเขต 3 ซึ่งเป็นเขตเดิมของ สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ลูกสาวโกหนอ และเขต 4 กาญจน์ ตั้งปอง ต้องจับตาการตัดสินใจของบ้านใหญ่ตรังหลังวันที่ 18 ต.ค.
จริงอยู่ แม้ก่อนหน้านี้ “โกหนอ” จะส่งสัญญาณชัด “มีสาทิตย์ ไม่มีโกหนอ” และอีกเงื่อนไข หาก “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” อดีตหัวหน้าพรรคไม่ไปต่อ ปลายทางของบ้านใหญ่ตรัง จะไปจบที่พรรคสีน้ำเงินตามดีลเดิม
ทว่า ภายใต้ดีลดังกล่าว เวลานี้ยังติดปัญหา ตรงที่เขต 4 หาก “โกหนอ” ย้ายไปภูมิใจไทย ก็จะต้องมี“สส.กาญจน์” ซึ่งเป็นเด็กปั้นติดสอยห้อยตามไปด้วย
ขณะที่ฝั่งภูมิใจไทยเอง ก็วางตัว “สจ.ล้าน” พิชัยเจริญศิริสุนทร สจ.กันตรัง หลานชายแท้ๆ ของ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย เอาไว้แล้วเช่นกัน
จึงต้องรอดูว่า หากที่สุด ปลายทางบ้านใหญ่ตรัง จอดที่พรรคสีน้ำเงิน อาจต้องมีรางวัลตอบแทน หรือมีดีลหลบเขตให้กับ “สส.กาญจน์” เป็นเด็กปั้นบ้านใหญ่ เป็นการชดเชย
จับสัญญาณ สนามปักษ์ใต้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.“โกเกี๊ยะ”พิพัฒน์ ลงพื้นที่จ.ตรัง พร้อมเดินทางไปยังบ้านใหญ่ย่านตาขาว
วันเดียวกัน “พิพัฒน์” ยังเดินทางไปที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ก่อนไปต่อที่ อ.ปากพนัง เพื่อชวนทีมงานเข้ามาช่วยในการเลือกตั้งครั้งหน้า
จึงต้องลุ้นว่า ท่ามกลางกระแสดูด “ซุ้มเมืองคอน” โดยเฉพาะ "อวยพรศรี เชาวลิต" บ้านใหญ่ท่าศาลา ที่ว่ากันว่า ไปพูดกับชาวบ้านว่า “ไปภูมิใจไทย”แน่นอน
ส่วนที่เหลือ ยังต้องจับตาไปที่ตัวแปรอย่าง "พรรคสีฟ้า" อีก 3-4 วันน่าจะชัดเจนขึ้น ว่า“หัวหน้า” และ“เลขาธิการ” จะล็อกมงไปลงที่ใคร
จากนั้น หลังจากวันที่ 18 ต.ค.ซึ่งได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็น่าจะเห็นสัญญาณชัดว่า “คนสีฟ้า” ที่ปรากฎตามดีล ใครจะอยู่ ใครจะไป โดยเฉพาะในส่วนของ "นิพนธ์ บุญญามณี" และ“สมยศ พลายด้วง” เวลานี้นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว เพื่อยื้อดีลสีน้ำเงินออกไปหลังวันที่ 18 ต.ค.
ภายใต้สมการภูมิใจไทยพรรคเกินร้อย นอกจากเป้าหมายสำคัญจะอยู่ที่ภาคอีสานแล้ว ยังต้องจับตาไปที่ “สมรภูมิปักษ์ใต้” โดยมีเป้าหมาย 30 สส.จากทั้งหมด 54 ที่นั่ง รอบนี้ภูมิใจไทยมีคู่แข่ง คือ พรรคกล้าธรรม และพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังเดินแผนกู้เรตติ้ง
จึงไม่แปลกที่จังหวะก้าวย่างของ“คีย์แมนสีน้ำเงิน”จะเดินเกมเร็ว รุกหนัก เพื่อนำหน้าม้วนเดียวจบ







