‘อนุทิน’ ชี้ ไทยอ่อนแอ การเมืองไร้เสถียรภาพ เหตุกฎหมายไม่เอื้อความเป็นธรรม

“อนุทิน” เผย ยึดหลัก ‘นิติธรรม’ ในการเป็น “นายกฯ” ชี้ ประเทศไทย อ่อนแอ เหลื่อมล้ำ การเมืองขาดเสถียรภาพ รากเง้าจากโครงสร้างกฎหมายไม่เอื้อความเป็นธรรม ต้องไม่ยอมให้ใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง ระบุ ลุยเดินหน้าเข้าเป็นสมาชิก OECD
ที่สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปาฐกถาพิเศษ เวทีสาธารณะด้านหลักนิติธรรม ครั้งที่ 3 (The Third Rule of Law Forum) ในหัวข้อ “ความพร้อมของกลไกเชิงสถาบันกับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ตอนหนึ่งว่า คำว่าหลักนิติธรรม ถูกอ้างถึงบ่อยที่สุดคำหนึ่ง และเป็นคำที่ถูกหลายคนใช้ประโยชน์ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ตนได้ยึดถือในหลักนิติธรรม และนำหลักธรรมไปใช้ประกอบในการใช้ชีวิตตั้งแต่สมัยประกอบธุรกิจ จนกระทั่งมาสู่การเป็นนักการเมือง และนายกรัฐมนตรีในที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า ความยุติธรรมเสมือนเสาเข็มของทุกสังคมที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ และความยุติธรรมต้องเป็นของทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มคนบางกลุ่ม (Justice for all, not justice for some) ไม่มีประเทศใดในโลกจะแข่งขันได้อย่างยั่งยืน หากขาดหลักนิติธรรมที่มั่นคง และการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแรงต้องอาศัยกฎหมายที่มั่นคง แน่นอน คาดเดาได้ และต้องมีความไว้วางใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และประชาชน หลักนิติธรรมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของกฎหมาย แต่คือ วัฒนธรรมแห่งความเป็นธรรม ที่ต้องปลูกฝังให้หยั่งรากในทุกระดับของสังคม เพื่อให้มีทั้งกฎหมายที่เป็นธรรม และมีระบบที่ทุกคนเชื่อมั่น และยืนหยัดบนความถูกต้อง
นายกฯ ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม มีความเหลื่อมล้ำ ขาดเสถียรภาพของระบบการเมือง และปัญหากลไกการปกครอง รากเหง้ามาจากความอ่อนแอของโครงสร้างทางกฎหมาย และวัฒนธรรมที่ไม่เอื้อต่อความเป็นธรรม หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงต้องยึดหลักนิติธรรมอย่างเข้มแข็ง มีความกล้าหาญบังคับใช้กฎหมายเพื่อความถูกต้อง เที่ยงธรรม และไม่ยอมให้กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง กลั่นแกล้ง กดดัน และข่มขู่
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลได้บรรจุในคำแถลงนโยบายให้ถือว่าการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ทางการเมือง หรือการละเว้นการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าพนักงานรัฐ ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ การสร้างข่าวปลอมการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง และต้องดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชน และนักลงทุนต่างประเทศ เพราะหลักนิติธรรมคือ ต้นทุนของความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนดำเนินการเพื่อเข้าเป็นสมาชิก OECD ที่ต้องมีมาตรฐาน มีธรรมาภิบาล มีหลักนิติธรรม ผ่านการดำเนินการใน 3 วาระสำคัญได้แก่
1.การวางโรดแมปด้านหลักนิติธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นสมาชิก OECD ปักหมุดแผนการยกระดับมาตรฐานด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
2.การปลดล็อกคอร์รัปชัน และปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ และที่สำคัญป้องกัน ช่องโหว่ทางกฎหมายหรือกลไกที่ไม่โปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดธุรกิจสีเทาและให้ธุรกิจสุจริตสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม และได้รับการสนับสนุนอย่างแท้จริง
3.การสร้างความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการยกระดับ Open Government ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ อย่างโปร่งใส และเข้าถึงได้จริง เพื่อให้ประชาชน ติดตาม ตรวจสอบ และสะท้อนความคิดเห็นต่อการทำงานของรัฐได้อย่างเป็นระบบ และรัฐจะต้องมีองค์กรที่รับฟังความคิดเห็นเหล่านี้ได้
นายอนุทิน กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญคือ การสร้างระบบนิเวศของความโปร่งใส ทุกการตัดสินใจจะต้องถูกตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนการใช้งบประมาณ และการดำเนินนโยบาย จะต้องเปิดเผย และเปิดโอกาสให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ การฟื้นฟูหลักนิติธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเริ่มต้นในวันนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านของประเทศ ที่วางรากฐานให้รัฐบาลชุดต่อไปสานต่อได้อย่างยั่งยืน ยกระดับหลักนิติธรรมเป็นวาระแห่งชาติเพื่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อสังคมที่ปกติสุข
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






