เพื่อไทยเปิดตัว 185 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ล็อตแรก 'แพทองธาร' อุบ 3 แคนดิเดตนายกฯ

เพื่อไทยเปิดตัว 185 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตั้ง “สุริยะ”นั่งผอ.เลือกตั้ง “แพทองธาร” ลั่นพร้อมสู้จนสุดทาง ถอดบทเรียนยกเครื่องพรรค อุบ 3 แคนดิเดตนายกฯ พร้อมเปิดในเวลาที่เหมาะสม
วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 13.30 น. พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมเปิดตัวผู้เสนอตัวสมัครเป็น สส. จำนวน 185 คน โดยมีแกนนำพรรค เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายสุทิน คลังแสง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นางมนพร เจริญศรี และยังมีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร เข้าร่วมด้วย
ก่อนเริ่มต้นได้มีการเปิดวีดิทัศน์ เป็นคำมั่นของ 4 อดีตนายกฯ ตั้งพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร
จากนั้นเวลา 13.35 น. น.ส.แพทองธาร กล่าวปาฐกถา “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” ว่า นับว่าเป็นครั้งแรกหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่หัวใจของพรรคเพื่อไทยได้มารวมตัวกัน ได้มีโอกาสที่สื่อสารกันแบบใจถึงใจ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถูกกระทำให้เป็นฝ่ายค้าน นายทักษิณผู้ก่อตั้งพรรคอยู่ในเรือนจำโดยคดีที่ตั้งต้นด้วยอำนาจรัฐประหาร
การเลือกตั้งซ่อมมีทั้งชัยชนะที่เกิดขึ้นที่ จ.เชียงราย ความพ่ายแพ้ที่ จ.ศรีสะเกษ มีคำพูดที่บอกกันว่าพรรคเพื่อไทยมาถึงทางตัน พรรคเพื่อไทยตายแน่นอน พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์แน่นอน ตนไม่เคยเชื่ออย่างนั้นเลย ตนไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์ไปนานแล้ว
เราเป็นพรรคการเมืองที่มีผลงานเป็นรูปธรรมมากที่สุด และต้องเผชิญชะตากรรมทางการเมืองสาหัสที่สุด พรรคนี้โดนรัฐประหารมาแล้วสองครั้ง ถูกยุบพรรคไปแล้วสองพรรค กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิเกือบ 200 คน นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งถึงหกคน โดยผู้ที่ก่อรัฐประหารไม่ต้องคดี แต่ผู้ก่อตั้งพรรคนี้ถูกจองจำ จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยคือ นโยบายที่ทำได้จริงช่วยพี่น้องประชาชน
เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการทำเพื่อพี่น้องประชาชน การเอานโยบายดีๆ ให้ถึงมือพี่น้องประชาชน จะทำให้ชีวิตของพวกเขากินดีอยู่ดี และปลดปล่อยศักยภาพของประชาชนให้ออกมาอย่างเต็มรูปแบบ เราเชื่อว่าการผลักดันนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาล ประชาชนทุกๆ คนในราชการ และเอกชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนั้น เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน
ดิฉันพร้อมสู้ และพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสู้ค่ะ ประเทศไทยต้องการ การเมืองที่สร้างสรรค์ ต้องการ การเมืองที่เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ต้องการความร่วมมือการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ของคนทุกรุ่นทุกวัยเพื่อให้การเมืองนั้นมีความเป็นส่วนรวมมากยิ่งขึ้น มีการประสานงาน มีการผลักดันนโยบายต่างๆ
การจะทำให้ความหวังเป็นจริงได้พรรคเพื่อไทยต้องสรุปบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อสรุปบทเรียนที่จะปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สรุปบทเรียนที่ผ่านมามีทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อผิดข้อพลาด ข้อทำถูกต้องอะไรบ้างที่จะทำให้เราสามารถปรับตัว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ เพื่อรับมือกับคนรุ่นใหม่ๆ และเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ของบ้านเมือง
การเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจังเพื่อสร้างพรรคการเมืองที่สามารถทำให้ประเทศไทยในฝันของหลายๆ คนเกิดขึ้นจริงได้ ในวันนี้พรรคเพื่อไทยจึงต้องทำการยกเครื่องครั้งใหญ่
พรรคเพื่อไทยกำลังยกเครื่องในเรื่องของโครงสร้างทั้งหมด เพื่อให้ศักยภาพของแต่ละคนได้ถูกนำออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถ ดิฉันขอประกาศให้ชัดเจนในวันนี้ ว่าอำนาจในการตัดสินใจที่เกี่ยวกับพรรค ทิศทางการเมืองของพรรคจะอยู่ที่หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารของพรรค
เมื่อท่านอื่นๆ มีความคิดเห็น มีสิ่งที่อยากนำเสนอหรือคิดต่างออกไป สามารถที่จะแนะนำ และบอกดิฉันได้โดยตรง ต่อจากนี้จะไม่มีเส้นทางลัด และเส้นทางเลี้ยว อ้อมไปทางไหน มีแต่เส้นทางตรง และชัดเจนในการตัดสินใจ ในการเปลี่ยนแปลง และทำให้เป็นเอกภาพ
แน่นอนว่าดิฉันยังคิดเสมอว่าการที่พรรคเพื่อไทยของเราที่มี สส.อยู่ทั่วประเทศ ดิฉันเชื่อมั่นใน สส.ของพวกเราทุกคนไม่ว่าจะผ่านเพียงสมัยเดียว หรือหลายสมัยแล้วก็ตาม ทุกคนยึดโยงกับประชาชน และสื่อสารกับประชาชนเสมอ ดิฉันจึงมั่นใจในตัว สส.ของเราว่า จะสามารถนำข้อมูลที่แท้จริงจากพี่น้องประชาชน เข้ามาสร้างนโยบาย เข้ามาช่วยกันผลักดันพรรคไปจนถึงการผลักดันนโยบายของประเทศ
โครงสร้างใหม่ที่พูดถึงนี้คงไม่ได้พูดแค่ภาพสวยหรู แต่เป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นจริง สามารถรวมความเป็นเอกภาพของพรรคเพื่อไทยไว้ ต่อจากนี้พลังของพรรคเพื่อไทยจะแน่วแน่ มั่นคง โปร่งใส และจะไม่มีใครมาลดทอนอำนาจนี้ได้
เราจะจัดคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะรับคำปรึกษาจากคณะกรรมการทั้ง 2 ส่วน คือ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเมือง
ทั้งหมดนี้จะเป็นการรวมทั้งสมอง และประสบการณ์ของพรรคเพื่อไทยไว้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งหลังบ้านของเราให้มีที่พึ่งพา และสามารถตัดสินใจโดยใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ด้านการทำงานเชิงปฏิบัติโครงสร้างจะแบ่งเป็นสี่เสาหลักคือ สำนักงานกิจการสภาผู้แทนราษฎร จะดูแลการประสานงานการประชุมสภา ประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ
ส่วนสำนักนโยบายจะเป็นเรื่องของการวิจัย เป็นดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยที่ทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และในส่วนของสำนักนโยบายนี้จะสนับสนุนในเรื่องของนโยบาย และวิชาการให้กับ สส.ด้วย เมื่อเราทำนโยบายใดๆ เราทำโพลแล้วว่ามีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนจริงๆ และ สส.ต้องเข้าใจในเรื่องของนโยบายด้วย เพื่อที่จะสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องการขับเคลื่อนไปทางไหน และเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนหรือไม่
ส่วนสำนักเลขาธิการพรรคโดยมีเลขาธิการพรรคเป็นหัวเรือใหญ่ บริหารจัดการกิจการทั้งหมดของพรรค โดยมีผู้อำนวยการพรรคดูแลสำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขา และมีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายเลขาธิการพรรค จะทำหน้าที่ประสานงานกับคณะกรรมการทั้ง 5 ภูมิภาค ทั้งอีสาน เหนือ กลาง ใต้ และกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ส่วนสำนักสื่อสารจะมีฝ่ายยุทธศาสตร์สื่อสาร วางแผนร่วมกับกองงานโฆษกในการสื่อสารกับประชาชน ที่จะบอกกล่าวว่าพรรคเพื่อไทยกำลังทำอะไรอยู่ เพื่อลดช่องว่างระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชน เราอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรคของเรา ได้มีการเสริมในเรื่องของความคิดเห็น เพื่อเป็นข้อมูลให้พรรคสามารถนำไปพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต
โครงสร้างนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีเสรีภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เราเริ่มมีการรับสมัคร สส.มาสักพักแล้ว เราอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นพื้นที่สำหรับทุกๆ คน และอยากให้เป็นพื้นที่สำหรับคนที่เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนโดยนโยบายที่เป็นประโยชน์นั้น จะทำให้ประเทศชาติก้าวไปต่อได้อย่างแข็งแรง แน่นอนว่าต้องเป็นบุคคลที่เชื่อในประชาธิปไตยที่กินได้ คนที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับเรา ต้องการเข้าใจวิธีความคิดของพรรคเพื่อไทย แล้วตัวเองมีความคิดแบบนี้อยู่แล้ว
ขอเชิญชวนท่านให้มาสมัคร ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือถ้ามีประสบการณ์มากอยู่แล้ว ก็มาสมัครได้ เราได้เปิดการรับสมัคร สส.มาสักพักแล้ว
อย่างเช่นวันนี้ สส.หน้าใหม่เกิน 100 คนซึ่งก็มาจากระบบนี้ ก็ขอเชิญชวนคนทั้งประเทศ นี่เป็นรูปธรรมที่พรรคเพื่อไทยเปิดพื้นที่ใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การสมัครในครั้งนี้ข้อมูลของผู้สมัครทุกท่านจะถูกคัด และถูกส่งไปตามภาคต่างๆ ทุกภูมิภาค จากนั้นจะมีคนรับผิดชอบอย่างชัดเจนในแต่ละภาค ดังนั้นข้อมูลที่ส่งมาแต่ละภาคจะพิจารณาแยกกัน และนำมารวมกันอีกทีตอนท้าย เราอยากเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงอุดมการณ์ และแสดงศักยภาพของตัวเอง
อีกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นเพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญของการคิดนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ คือ การจัดตั้งเวทีตาดูดาวเท้าติดดิน หรือ Moon Shot Forum เป็นเวทีศึกษาวิจัยหาทางออกที่มีวิกฤติผันผวนมากมายทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ก็จะเป็นเวทีที่จะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นประโยชน์ในการผลักดันนโยบายประเทศชาติต่อไป
พรรคเพื่อไทยจะเริ่มทำเวทีดังกล่าวที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ภายในเดือนต.ค. จากนั้นจะขยายพื้นที่จากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด เราจะมีการรับฟังความคิดเห็นทั้งจากทุกภาคส่วน
เรายกเครื่องพรรคเพื่อไทยแล้ว และเราจะยกเครื่องประเทศไทยได้อย่างไร คำตอบคือการนำเสนอนโยบายใหม่จากบทเรียนที่เราเป็นรัฐบาลมา 2 ปี ถ้าทุกท่านยังไม่ลืมว่าเราเป็นฝ่ายค้านมาเกือบ 9 ปี เราได้มีโอกาสบริหารงานจริง 2 ปี ที่ผ่านมาเราได้เข้าไปเห็นระบบราชการต่างๆ การทำงานต่างๆ เราเริ่มเห็นว่าระบบนิเวศทางการเมือง ระบบการทำงานของราชการมีปัญหา และถ้าระบบราชการมีปัญหา การผลักดันนโยบายจะเกิดขึ้นได้ยากขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าจริงๆ แล้วเรามีข้าราชการที่เก่ง และมีความสามารถอีกมากมาย
ตอนที่ตนดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้เจอปลัดกระทรวง ข้าราชการที่เก่งอย่างมาก ดิฉันยังเคยพูดเล่นว่าอย่างนี้ถ้าท่านปลัดเกษียณแล้ว ขออนุญาตมาสมัครที่พรรคได้หรือไม่ เพราะเห็นว่าเป็นคนที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาประเทศได้ และเข้าใจระบบจริงๆ อันนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียดายว่าคนที่มีศักยภาพ คนที่เป็นข้าราชการเยอะ แต่ระบบไม่ได้ถูกสร้างอย่างบูรณาการ แต่กระทรวงมีความซ้ำซ้อนในเรื่องของการทำงานทำให้ล่าช้า การผลักดันหนึ่งนโยบายต้องไปติดกับตรงนี้มากมาย
ถ้าเราร่วมมือกัน ทำงานอย่างบูรณาการ ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน และพรรคเพื่อไทยอยากจะเปลี่ยนค่านิยมของข้าราชการทั้งหมด จากที่ว่าไม่ทำให้ไม่ผิด เป็นทำเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชน
ดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อข้าราชการทำเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชน ข้าราชการก็จะรู้สึกภูมิใจด้วยตัวเอง ที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันประเทศ ผลักดันนโยบาย และสร้างความยินดีอยู่ดีให้กับพี่น้องประชาชนได้จริงๆ เราจะยกเครื่องระบบการทำงานแบบบูรณาการระหว่างราชการ และส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาร่วมด้วยในเรื่องของแนวความคิดในเรื่องของสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เราจะใช้เอกชนทำงานราชการอำนวยความสะดวก
ตรงนี้ได้ทำแล้ว ผ่านทาง Soft Power ของ THACCA ซึ่งตรงนี้ทำ และประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก้าวกระโดดไปสู่เวทีระดับโลกโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น
ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นใน 4 เดือนข้างหน้า พรรคเพื่อไทยเราพร้อมแล้ว ดิฉันได้แต่งตั้งท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง และมีผู้อำนวยการเลือกตั้งอีกหลายๆ ท่านที่ผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งมากๆ ซึ่งต้องขอพึ่งพาทุกท่าน
ทุกครั้งที่ประชุมร่วมกันช่วยเหลือกัน ดิฉันได้คำตอบที่มั่นใจทุกครั้งจากความสามารถของคนในพรรคของเรา
ในวันนี้ทุกคนอาจจะมองว่ามีแคนดิเดตนายกฯ อยู่หรือไม่ จริงๆ แล้วดิฉันอยากเป็นแคนดิเดตมากเลย แต่ว่าเสียใจเป็นแคนดิเดตไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้ความมั่นใจว่า เราจะเปิดชื่อ 3 แคนดิเดต ในเวลาที่เหมาะสม และมั่นใจว่า 3 ชื่อนี้ จะเป็นชื่อแห่งความหวังให้กับพี่น้องประชาชนในทุกระดับแน่นอน
ก่อนที่เราจะไปพบกับผู้เสนอตัวเกือบ 200 คน อยากจะขอพูดจากใจจริง ว่าต้องขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ยังอยู่กับเราในวันนี้ ขอบคุณที่ต่อสู้ทุกกระแสข่าว ทุกกระแสคำพูดที่เป็นกระแส ขอบคุณที่ตัดสินใจอยู่ ขอบคุณคนที่อยู่มายาวนาน และเลือกที่จะยังอยู่กับเราต่อไป
ทุกท่านทราบว่าที่แห่งนี้เป็นมากกว่าพรรคการเมือง ที่นี่คือ บ้านของพรรคเพื่อไทย ที่นี่คือบ้านของคนเพื่อไทย และที่นี่จะไม่มีวันทิ้งกันไปไหน ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านจากหัวใจ
ในฐานะของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอสัญญาว่าดิฉันจะทำให้เต็มที่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ จะยืนสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกท่านไปจนสุดทาง และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าทุกท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเช่นกัน ชัยชนะจะเป็นของเรา และเราจะมีโอกาสได้ไปสร้างโอกาสให้กับชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกๆ คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทำหน้าที่พิธีกร กำลังเชิญหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคขึ้นมาถ่ายรูปตรงกลางเวที โดยนายดนุพร ระบุว่า ตอนนี้เรามี 185 คน แต่ทั้งประเทศมี 400 เขต เราส่งครบแน่นอน ฉะนั้นหลายคนที่บอกว่ายังไม่มีผู้สมัครในจังหวัดตัวเอง ขอให้รอสักครู่ ท่านหัวหน้ากำลังทำงานอยู่ เดี๋ยวจะมีรายชื่อต่อไปแน่นอน
ด้าน น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่า ว่าที่ผู้สมัครพร้อมแล้วในชุดแรกถือว่าเกือบ 50% แล้ว
ด้านนายดนุพร กล่าวว่า ใครที่เล็งๆ เอาไว้ไม่ต้องติดต่อมา เต็มแล้ว ทำให้ น.ส.ขัตติยากล่าวว่า หัวหน้าบอกว่าติดต่อได้ พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นบ้านให้ทุกคน ใครที่มีความสนใจ พรรคเพื่อไทยยินดีต้อนรับ
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “โนชอปปิงๆ” พร้อมกับส่ายนิ้วชี้ไปมา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







