'ทนายอั๋น' จ่อฟ้องเลขา กกต.โอนงบมิชอบ เงินไหลฐานเสียง 'น้ำเงิน'

'ทนายอั๋น' จ่อฟ้อง 'เลขา กกต.' กล่าวหาออกระเบียบมิชอบ โอนงบ ศส.ปชต. ส่อขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เงินล้านไหลสู่ 23 จว. เอื้อฐานเสียง 'พรรคน้ำเงิน'
KEY
POINTS
- ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น" เตรียมฟ้องร้อง "แสวง บุญมี" เลขาธิการ กกต. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
- กล่าวหาว่าออกประกาศให้โอนเงินอุดหนุนโดยตรงแก่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ
- ตั้งข้อสังเกตว่าบุคลากรใน ศส.ปชต. เช่น อสม. และผู้ใหญ่บ้าน เป็นฐานเสียงของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรค "สีน้ำเงิน"
- มีการโอนเงินงบประมาณดังกล่าวไปแล้วในหลายจังหวัด รวมเป็นเงินหลายล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น" เปิดเผยว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ กรณีออกประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้จ่ายเงินสนับสนุนหรือเงินอุดหนุนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย 2567 ขัดต่อ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผอ.กกต.ประจำจังหวัดต่างๆรวม 23 จังหวัด ถึงพฤติกรรมของนายแสวง ในการออกประกาศดังกล่าวโดยปกติหน่วยงานของรัฐหากจะดำเนินโครงการใด หรือจะจัดซื้ออุปกรณ์ เพื่อให้หน่วยงานภายในองค์กรนำไปใช้ประโยชน์ หน่วยงานนั้นๆจะเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อเอง เป็นไปตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ แต่ในส่วนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงาน กกต. และทำหน้าที่ในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยและบุคลากรของศูนย์ ทำหน้าที่ช่วยเหลือ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม
นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า กลับพบว่านายแสวง เลขาธิการกกต. กลับไปออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายเงินสนับสนุนหรือเงินอุดหนุนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย 2567 ที่มีเนื้อหากำหนดให้เมื่อสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดได้รับเงินโอนเงินจากส่วนกลางแล้วให้โอนงบอุดหนุนนี้ให้กับศส.ปชต. โดยตรงเพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรม ซึ่งองค์ประกอบของศส.ปชต. ประกอบไปด้วยนายกอบต. อสม. ผู้ใหญ่บ้าน และอบต.
"นายแสวง ออกระเบียบนี้วันที่ 23 ก.ค.2567 บอกว่าให้โอนเงินไปให้กับศส.ปชต. จ่ายเงินให้เขาไปเลย จะไปทำอะไรก็ได้เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย ซึ่งหมายความว่าเป็นเรื่องที่ต้องห้าม กฎหมายไม่ให้ทำ โดยกฎหมายบอกว่าหน่วยงานภายในของกกต.อยากได้อะไร เช่นหีบเลือกตั้ง ปากกา กระดาษ สำนักงานจะต้องจัดซื้อ และมอบให้เขา ไม่ใช่เอาเงินไปให้เขา แต่เนื้อหาประกาศฉบับกลับโอนเงินตรงให้กับนายกอบต. อสม. ผู้ใหญ่บ้าน อบต. โดยผ่านกลไกของศส.ปชต. ซึ่งคนที่อยู่ในหน่วยงานนี้สังคมก็รู้ว่าเป็นฐานเสียงของนักการเมืองและพรรคการเมือง" นายภัทรพงศ์ กล่าว
นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อไปดูวันที่นายแสวง ออกอากาศคือวันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลานั้นหน่วยงานที่กำกับคนเหล่านี้คือกระทรวงมหาดไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล กำกับดูแลอยู่ในขณะนั้น ไม่รู้ว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเกี่ยวดองกันอย่างไร ผมไม่ฟันธง ให้ประชาชนจะตัดสินเอง ตอนนี้กกต.จ่ายไปแล้วหลายจังหวัด อ่างทองก็มี บุรีรัมย์นี่คิวแรก ๆ เลย รวมกว่าหลายล้านบาท
"แต่ผมต้องมาเบรคเพราะผมมีข้อเคลือบแคลงสงสัย เพราะคนของศส.ปชต. ก็เป็นคนของการเมือง เป็นหัวคะแนน และเป็นคนที่หาคะแนน ที่เจ็บปวดที่สุดคือ อสม.ที่ว่ากันว่าเป็นตัวจักรสำคัญของพรรคการเมืองสีน้ำเงิน มันช่างประจวบเหมาะอะไรกับการที่นายแสวง ออกกฎหมายกระจอกงอกง่อยไปหักกฎหมายหลักอย่างพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เพื่อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองสีน้ำเงินใช่หรือไม่" นายภัทรพงศ์ กล่าว







