อหังการ ‘น้ำเงิน’ ปักธงศรีสะเกษ ปั่น ‘ชาตินิยม’ โกย 4 จว.ชายแดน

“นายกฯ หนู” ที่เตรียมนำ ครม.สัญจร พื้นที่ชายแดนอีสานใต้ ไม่ต่างจากจังหวะก้าวย่างของ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่กำลังฮึกเหิมจากผลเลือกตั้งซ่อม เดินหน้าเต็มสูบ ปั่นกระแส “ชาตินิยม”
KEY
POINTS
- พรรคภูมิใจไทย (พรรคสีน้ำเงิน) ชนะการเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถือเป็นการปักธงชัยในพื้นที่เป้าหมาย
- ชัยชนะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เพื่อกวาดที่นั่งใน 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์
- พรรคภูมิใจไทยใช้กลยุทธ์ปลุกกระแส "ชาตินิยม" โดยชูประเด็นการปกป้องอธิปไตยชายแดนเพื่อสร้างคะแนนนิยม
ผลการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ล้างอายไล่หนูตีงูเห่า หลัง “อีฟ” จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคภูมิใจไทย เป็นฝ่ายประกาศชัยชนะด้วยคะแนน 40,246 ทิ้งห่าง “ภูริกา สมหมาย” ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคเพื่อไทยที่ได้ 31,577 คะแนน ไปกว่า 9 พันคะแนน
แน่นอนว่า ศึก “ทายาทชนทายาท” รอบนี้ ไม่ใช่แค่ศึกศักดิ์ศรี สางแค้นผ่านสงครามตัวแทน ระหว่างตระกูลไตรสรณกุล “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน” และตระกูลสมหมาย จากพรรคสีแดง เพียงเท่านั้น
ทว่า ยังหมายรวมไปถึงศึกศักดิ์ศรีระหว่าง “ภูมิใจไทย” และ “เพื่อไทย” ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้
เจาะลึก 4 จังหวัด “ชายแดนอีสานใต้” ท่ามกลางกระแสชาตินิยม ที่พรรคการเมืองหวังโหนสถานการณ์
ไล่ตั้งแต่ ศรีสะเกษ เมื่อช่วงต้นปี 2565 เป็นจังหวัดแรก ที่ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้นำทัพเพื่อไทยเปิดปฏิบัติการ “ไล่หนูตีงูเห่า”
ล็อกเป้า 3 อำเภอ คือ อุทุมพรพิสัย ราษีไศล และขุนหาญ ซึ่งเป็นฐานที่มั่น “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” หวังเปิดเกมเอาคืนบ้านใหญ่ที่แปรพักตร์ ถอดเสื้อสีแดงไปสวมเสื้อสีน้ำเงิน
ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ปรากฏว่าเพื่อไทยสามารถชำระแค้นได้สำเร็จ “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” ที่หันไปสวมเสื้อภูมิใจไทยพ่ายเรียบทั้ง 3 เขต
โดยเฉพาะเขต 5 “อมรเทพ” บิดาของ “ภูริกา” ที่เปลี่ยนเสื้อจากพรรคชาติไทยพัฒนา หันมาสวมเสื้อเพื่อไทย เอาชนะไปด้วย 32,884 คะแนน คว่ำ “ธีระ ไตรสรณกุล” บิดาของ “ว่าที่ สส.อีฟ” แชมป์เก่าจากภูมิใจไทย ที่ได้ 25,837 คะแนน
มาถึงวันนี้ เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว เพื่อไทยสิ้นสภาพความเป็นรัฐบาลจากคดีคลิปเสียง ส่งผลไปถึงเรตติ้งพรรคเพื่อไทยในโซนชายแดนที่ตกเป็นรอง
ต่างจากพรรคภูมิใจไทยที่แปรสภาพเป็นแกนนำ หลังชิงเกมจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจได้สำเร็จ แถมได้คุมฟันเฟืองเลือกตั้ง มีกระสุนเต็มกระเป๋า
จึงเป็นที่มาของชัยชนะเขต 5 ศรีสะเกษ ส่งผลให้พรรคสีน้ำเงินมีที่นั่ง สส.ศรีสะเกษ เพิ่มอีก 1 รวมของเดิม เขต 3 ธนา กิจไพบูลย์ชัย และเขต 8 อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ เท่ากับว่าเวลานี้ภูมิใจไทยมี สส.3 คน
ขณะที่เพื่อไทยซึ่งแต่เดิมมี สส.7 คน หากตัดเขต 5 ที่แพ้เลือกตั้งซ่อม รวมกับเขต 4 ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ และเขต 9 นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร 2 สส.ที่โหวต “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกฯ ส่งสัญญาณชัดว่าเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งรอบหน้า
ทำให้เวลานี้เพื่อไทยเหลือ สส.ศรีสะเกษ ในมือแค่ 4 คน คือ เขต 1 ธเนศ เครือรัตน์ เขต 2 สุรชาติ ชาญประดิษฐ์ เขต 6 วีระพล จิตสัมฤทธิ์ เขต 7 วิลดา อินฉัตร
แน่นอนว่า ในห้วงที่ “เพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย” วนลูปกลับมาอยู่ในสถานะขั้วตรงข้ามทางการเมือง ไม่ต่างจากกระแสดูด-ดีลที่กำลังวนลูปกลับไปเหมือนปี 2566 ย่อมทำให้ต่างฝ่ายต่างย่อมเก็บงำความแค้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เชื่อได้เลยว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นสนามศรีสะเกษ จะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดสำคัญที่ทั้ง “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” วางเดิมพันชนิดเทหมดหน้าตักแน่นอน
ถัดมา จ.สุรินทร์ 8 เขต เป็นอีกหนึ่งจังหวัด เดิมพันสำคัญระหว่าง “พรรคน้ำเงิน” และ“พรรคแดง” ปัจจุบัน เพื่อไทยมี สส.3 คน คือ เขต 2 ชูชัย มุ่งเจริญพร เขต 4 พรเทพ พูนศรีธนากูล และเขต 5 ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส่วนที่เหลืออีก 5 เขต ภูมิใจไทยคุมที่นั่ง สส.ได้ทั้งหมด
ต้องจับตา เขต 5 ครูมานิตย์ ที่ว่ากันว่า ถูกเปิดดีลจากพรรคสีน้ำเงิน เวลานี้อยู่ในช่วงตัดสินใจอนาคตการเมือง
ขณะที่ จ.อุบลราชธานี มี สส.11 คน แบ่งเป็นภูมิใจไทย 3 คน เพื่อไทย 4 คน ไทยสร้างไทย 1 คน ประชาธิปัตย์ 1 คน และไทยรวมพลัง 2 คน
ท่ามกลางกระแสชาตินิยมบวกการเมืองที่แปรผัน ยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ต้องจับตาในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
ส่วน จ.บุรีรัมย์ เมืองหลวงค่ายสีน้ำเงิน ฐานที่มั่น “ครูใหญ่” เวลานี้มี สส.ยกจังหวัด แทบไม่ต้องลุ้น ภายใต้ทุกองคาพยพที่ภูมิใจไทยมีอยู่ในมือเวลานี้ โอกาสเกิด “เกมพลิก” ล้มแชมป์เก่าแทบเป็นศูนย์
จับอาการ “นายกฯ หนู” ที่เตรียมนำ ครม.สัญจร พื้นที่ชายแดนอีสานใต้ ไม่ต่างจากจังหวะก้าวย่างของ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่กำลังฮึกเหิมจากผลเลือกตั้งซ่อม เวลานี้ยังเดินหน้าเต็มสูบ ปั่นกระแส “ชาตินิยม” ใช้ประเด็น “ปกป้องอธิปไตย” ชายแดน เป็นหมากกระชากเรตติ้ง
เป็นการตอกย้ำการเมืองฉบับ “น้ำเงินสไตล์” ส่งสัญญาณเทหมดหน้าตัก หวังเติมเสียงเป็นพรรค100 + ปูทางสู่การเป็นรัฐบาลสมัยสอง ในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง!
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







