รฟท.ประเดิมฟ้องที่ดินรายแปลง บทพิสูจน์ 'อนุทิน' สาง ‘เขากระโดง’

เงื่อนปม “เขากระโดง” เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่สาธารณชนจับตาอย่างหนัก สำหรับ “ครม.อนุทิน ชาญวีรกูล” เนื่องจากในที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 4,414 ไร่ จากทั้งหมดกว่า 5,083 ไร่นั้น พบว่าอาจมีปัญหาในการบุกรุกที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยจำนวนนี้มีอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่ อยู่ในเครือข่ายธุรกิจ “ตระกูลการเมืองดัง” ในพื้นที่อีสานใต้

ดังนั้นการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ของ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่เป็นรัฐบาล และยังมีบารมีแผ่ไพศาลไปยัง “สภาฯสูง-องค์กรอิสระ” ในขณะนี้ จึงถูกหลายฝ่ายกังขาว่า อาจมีลับลมคมในอย่างหนึ่งอย่างใด ในการไปแตะกระบวนการยุติธรรมที่กำลังเดินหน้าเรื่องนี้หรือไม่ เพราะหลายคนโฟกัสว่า “บ้านใหญ่อีสานใต้” ส่ง “สายตรง” หลายคนมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ที่อาจเกี่ยวข้องในการดำเนินการเรื่องนี้

ในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลเมื่อ 29-30 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา แม้ “นายกฯอนุทิน” จะพยายามพูดชี้แจงหลายครั้ง ยืนยันไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “เขากระโดง” และ “คดีฮั้ว สว.” ก็ตาม 

รวมถึง “บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” หลายคนเช่น โสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม ลุกขึ้นชี้แจงในประเด็นเหล่านี้เช่นเดียวกัน โดยในห้วงเวลาการเป็นรัฐบาล 4 เดือนตามเงื่อนไข MOA กับ “ก๊กส้ม” หลังจากนี้จะเดินหน้าเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีมวยล้มต้มคนดูก็ตาม

แต่ก็ถูกท้าทายจาก “ก๊กส้ม” โดยมี สส.ปชน.หลายคน อภิปรายแตะเกี่ยวกับ “เขากระโดง” โดยเน้นย้ำปัญหาว่า มีที่ดินอย่างน้อย 2 แปลง รวม 44 ไร่ ที่เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดไปแล้ว ซึ่งเห็นว่า ที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท. จึงขอให้ “นายกฯ และรัฐมนตรี” สั่งการ รฟท.ฟ้องเพิกถอนที่ดิน 2 แปลงนั้น ให้เป็น“ตัวอย่าง” 

ถ้าศาลตัดสินว่าที่ดินเป็นของ รฟท.ก็ให้เพิกถอนไป แต่ถ้าไม่ใช่ที่ดิน รฟท. เรื่องเหล่านี้จะได้ยุติลง โดย “บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” ก็ยืนยันว่าจะดำเนินการ

สำหรับมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดังกล่าว เรื่องกล่าวหา เลขดำที่ 51910034 เรื่องกล่าวหาแดงที่ 14999054 ลงวันที่ 12 ก.ย. 2554 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช ได้มีหนังสือ ลับ ที่ ปช 0018 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2559 แจ้งไปยังกรมที่ดินว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 เนื่องจากออกทับที่ดินของ รฟท. และแจ้งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น

ทั้งนี้ “วีริศ อัมระปาล”ผู้ว่าฯ รฟท. ลงนามในหนังสือเมื่อ 29 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา ถึงสำนักอาณาบาล (ฝ่ายกฎหมาย) ขออนุมัติให้ฟ้องคดีในที่ดิน 2 แปลงซึ่งเคยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กล่าวคือ ให้ฟ้องเพิกถอนหรือฟ้องขับไล่ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 บริเวณแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ไปแล้ว

สาเหตุประการสำคัญที่ รฟท.ดำเนินการลุยเรื่องนี้เอง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 21 มี.ค. 2568 รฟท.เคยมีหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล ให้ดำเนินคดีขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับช้อนที่ดินของ รฟท. พร้อมขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากผู้ถือเอกสารสิทธิ์ และผู้ยึดถือครอบครองในบริเวณทางแยกเขากระโดง ทว่าจนถึงปัจจุบัน อสส.ยังไม่มีหนังสืออะไรตอบกลับมา

ดังนี้ เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลปกครองสูงสุด สำนักงานอาณาบาล จึงขออนุมัติฟ้องเพิกถอน หรือฟ้องขับไล่ ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 บริเวณแยกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์

“รฟท.ขอเรียนว่า ที่ดินบริเวณแยกเขากระโดงนั้นเป็นที่ดินของ รฟท. ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐเพื่อกิจการของ รฟท. อันจะสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วไปได้ รฟท.พยายามเรียกคืนที่ดินดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ และเป็นคดีที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาล เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับซ้อนที่ดินของ รฟท.” หนังสือดังกล่าวระบุ

สำหรับ อสส.ที่ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือน มี.ค. 2568 คือนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ที่ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2567 และเกษียณอายุราชการเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าดังกล่าวค่อนข้างสำคัญ ภายหลัง “รัฐบาลสีน้ำเงิน” เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน โดย “กรมที่ดิน” ภายใต้กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานสำคัญอีกแห่งซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงในการเพิกถอนที่ดิน ยังคง “ยื้อ” ไม่ดำเนินการใดๆ โดยอ้างว่า รฟท.ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้วินิจฉัยคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน (คนเก่า) ที่ไม่เพิกถอนที่ดินบริเวณเขากระโดง

แม้ว่าในยุค “รัฐบาลสีแดง” ก่อนหน้านี้ จะมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งเดิมของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ไม่ยอมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ และ “เดชอิศม์ ขาวทอง” เมื่อครั้งนั่งเก้าอี้ มท.3 เคยแถลงข่าวสั่งการให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนที่ดินบริเวณเขากระโดงมาแล้ว แต่เมื่อ“ฟ้าเปลี่ยนสี” อยู่ๆ หน่วยงานนี้ก็ถูกมองว่า“เกียร์ว่าง”ในเรื่องนี้อีกครั้ง

นอกเหนือจากคดีอาญาแล้ว ปัจจุบันเรื่องนี้ยังถูกสอบสวนในทางอาญา โดยมี “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือ “ดีเอสไอ” เป็นโต้โผหลัก ดำเนินการสอบสวนตามข้อร้องเรียนการครอบครอง และการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ โดยอธิบดีดีเอสไอ มีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคล และเจ้าหน้าที่การ รฟท.เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาณาบาล (ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย) รฟท. เดินทางมาแจ้งความ และให้ข้อมูลแก่ดีเอสไอ หลังพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดเผยว่า มาเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดินของ รฟท. ที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาโดยตลอด ในเรื่องเพิกถอนที่รุกล้ำ โดยมีความประสงค์ให้ดีเอสไอดำเนินคดี กับกลุ่มบุคคลที่บุกรุกยึดถือครอบครอง ที่ดินในส่วนของเขากระโดงทั้งหมด 4,414 ไร่ รวมทั้งดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยปัจจุบันดีเอสไอยังคงดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้อยู่

ล่าสุด เย็นวานนี้ (30 ก.ย.) “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ชี้แจงต่อสภาฯ กรณีที่มีข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง โดยยืนยันว่า ปัจจุบัน รฟท.เดินหน้าฟ้องผู้บุกรุกที่มีเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ 5,083 ไร่ จำนวน 995 แปลง โดยจะดำเนินการฟ้องทีละรายจนครบตามกำหนด

ทั้งหมดคือความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับเงื่อนปม “เขากระโดง” ที่ยังคงเดินหน้าทั้งในทางปกครอง คือการเพิกถอน และทางอาญา ที่ดีเอสไอสอบสวนรับเป็นคดีพิเศษ ท่ามกลางมรสุมทางการเมือง นับเป็นอีกหนึ่ง “บทพิสูจน์” สำคัญของ “รัฐบาลสีน้ำเงิน” ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา อย่างที่เคยลั่นวาจาไว้จริงหรือไม่