‘อนุทิน’ นำถก ‘ครม.’ สั่งตั้ง ศชภ. ช่วยภัยพิบัติ เคาะ ‘เสี่ยโต้ง’ โฆษกรัฐบาล

“อนุทิน” สั่ง ตั้ง “คอภ.-ศชภ.” ช่วยภัยพิบัติ ปชช. แก้ซ้ำซ้อน วางมาตรการประจำทุกปี ไม่ต้องของบฯ เป็นครั้งๆ สั่งทบทวนหลักเกณฑ์เยียวยา ปชช. ชายแดนกัมพูชา เคาะ สิริพงศ์ นั่ง โฆษกรัฐบาล
เมื่อเวลา 18.40 น. ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 1/2568 หลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยได้แจ้งข้อสั่งการในที่ประชุม ดังนี้
1.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 นายกฯ ได้ลงพื้นที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เสนอค่าดำรงชีพเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ มีความเป็นเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน และครอบคลุมทุกมิติ และขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ.) เพื่อพิจารณาในภาพรวม ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ. ) แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้ ศชภ. จัดทำข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำเป็นการประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลงพื้นที่พบว่า มีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่รับน้ำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่นี้ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี รัฐบาลต้องให้การดูแล ช่วยเหลือ และเยียวยาเป็นการเฉพาะ โดยจัดให้มีมาตรการช่วยเหลือเป็นการประจำทุกปี ไม่ต้องมาตั้งเรื่องของบเป็นครั้งๆ ปีต่อปี
พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
2.) นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจ่าย และวงเงินช่วยเหลือ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้อย่างครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ โดยเร็ว เนื่องจากหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่าย รวมทั้งวงเงินช่วยเหลือดังกล่าว ยังมีข้อจำกัดบางประการ ส่งผลให้การจ่ายเงินช่วยเหลือ ยังไม่ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ที่ประชุมครม. มีมติแต่งตั้งนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี





