'วิโรจน์' เปิดผังสัมพันธ์ลึก 'ทุนเทา' ฮุบหุ้นบางจาก จี้นายกฯสาง

'วิโรจน์' เปิดผังสัมพันธ์ลึก 'ทุนเทา' ฮุบหุ้นบางจาก จี้นายกฯสาง

'วิโรจน์' เปิดผังเครือข่ายสัมพันธ์ลึก 'เบนจามิน' ขบวนการทุนเทาข้ามชาติ ฮุบหุ้น 'บางจาก' จี้ 'อนุทิน' ตรวจสอบ หวั่นไทยเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน โยง 'เศรษฐา-ธรรมนัส-นฤมล'

KEY

POINTS

  • นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน เปิดโปงขบวนการที่ต้องสงสัยว่าเป็น "ทุนเทา" ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนในกัมพูชาและนักการเมืองไทย พยายามเข้าซื้อหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่นฯ
  • ธุรกรรมดังกล่าวเชื่อมโยงถึงนายเบนจามิน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุนเซน และปรากฏภาพร่วมกับนักการเมืองไทย โดยถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
  • เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยด่วน เนื่องจากกังวลว่าอาจเป็นเงินทุนจากอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาครอบงำกิจการสำคัญของประเทศ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า หากรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ใส่ใจในการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ตามการแถลงนโยบาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแกะรอย และติดตามตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัทบางจาก คอร์เปอเรชัน มหาชน เรื่องนี้มาจากรายงานในปี 2567 ที่มีกองทุนลึกลับพยายามเข้าซื้อหุ้นบางจากทั้งหมดที่กองทุนประกันสังคมถือครองไว้อยู่ 14.18% เป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง ประเด็นอยู่ที่ว่าคณะอนุกรรมการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม พยายามสอบถามตัวจริงผู้ที่จะมาซื้อหุ้นเป็นใคร แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ จึงทำให้ดีลการซื้อหุ้นไม่เกิดขึ้น ซึ่งนายอนุทินสามารสอบถามได้จากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงานในขณะนั้น

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต่อมาปรากฏข่าวใหญ่กองทุนจากประเทศสิงคโปร์ ได้เข้ามาถือครองหุ้นบางจากฯ ในสัดส่วนสูงถึง 14% แต่ถืออยู่เพียงชั่วคราวก็รีบเทขายหุ้นถึง 9% ให้กับบริษัทของไทย และบริษัทดังกล่าวมีการไล่ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องจนกวาดหุ้นไปครองถึง 20 % ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้เชื่อมโยงไปถึงนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และบรรดานายทุนและกลุ่มทุนธนาคารในกัมพูชา นอกจากนี้ในไทยยังมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับนักการเมืองหลายคนอย่างแนบแน่นไม่แพ้กัน เคยปรากฏภาพถ่ายนายเบนจามินนั่งร่วมดื่มกาแฟกับนายทักษิณ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ นอกจากนั้นยังมีภาพถ่ายทำบุญในงานทอดกฐินที่ จ.อุตรดิตถ์ อย่างชัดเจน

'วิโรจน์' เปิดผังสัมพันธ์ลึก 'ทุนเทา' ฮุบหุ้นบางจาก จี้นายกฯสาง

เมื่อภาพเหล่านี้ปรากฏต่อสาธารณชนก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เกิดการสงสัย ว่าตกลงแล้วความเชื่อมโยงที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ นายเบนจามิน ถูกต้องข้อสงสัยอย่างหนักว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับทุนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงออนไลน์ ธุรกิจเถื่อน อาชญากรรมไซเบอร์ ที่มีฐานปฏิบัติการใหญ่อยู่ในกัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4-6 แสนล้านบาท เท่ากับ 60% ของจีดีพีกัมพูชา ซึ่งมีประชาชนไทยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์สูงถึงปีละ 115,300 ล้านบาท ตกวันละ 316 ล้านบาท ความเสียหายของประเทศไทยสูงถึง 135,000 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า 1 ในผู้จัดการกองทุน CAI มีชื่อว่าแคทรียา บีเวอร์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายเบนจามิน

โดยนายเบนจามินไม่ใช่ชาวต่างชาติที่ได้รับสัญชาติกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซนโดยตรง ที่น่าตั้งคำถามคือครั้งนั้นบนหน้าเว็บไซต์ของบีไอซีกรุ๊ปเคยแอบอ้างเอาชื่อของนายวรภัค ธันยาวงศ์ รมช.คลัง ไปเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการร่วมกับอดีตปลัดกระทรวง 2 กระทรวงและอดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนายวรภัคเพิ่งออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยดำรงตำแหน่งในบีไอซีกรุ๊ป เพียงแค่เคยพบและพูดคุยกับนายยิม เลียก ประธานบีไอซีกรุ๊ป เมื่อหลายปีก่อน หากเป็นเช่นนั้นจริงนายวรภัค ต้องฟ้องบริษัทบีไอซีกรุ๊ป ฐานผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ตนเชื่อว่านายอนุทิน น่าจะรู้จักับนายเบนจามินอยู่บ้าง เพราะในช่วงปลายปี 2567 บุคคลนี้เคยขอสละสัญชาติกัมพูชาและมาขอสัญชาติไทย แต่ถูกนายอนุทิน ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทยในขณะนั้น ไม่เซ็นอนุญาต

'วิโรจน์' เปิดผังสัมพันธ์ลึก 'ทุนเทา' ฮุบหุ้นบางจาก จี้นายกฯสาง

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัท บางจากฯ ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจโรงกลั่นและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ได้ขยายธุรกิจไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบริษัทบีซีพีอาร์ เพื่อดำเนินธุรกิจสำรวจปิโตรเลียม ซึ่งได้มีการประกาศร่วมมือกับบริษัทเชฟรอน เพื่อสำรวจปิโตรเลียมในแปลง G2/65 ในอ่าวไทย แต่ประเทศไทยมีเอ็มโอยู 44 กับกัมพูชาที่มีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนในบริเวณอ่าวไทย ซึ่งมีขนาด 2.6 หมื่นตร.กม. ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรปิโตรเลียมในทะเลมูลค่ามหาศาล มีการวางแผนเรื่องสัมปทานเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่การสำรวจยังไม่เกิดขึ้น เพราะข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ยังไม่สิ้นสุด คำถามคือหากฝ่ายการเมืองดีลกันลงตัวระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนของนักการเมืองและกลุ่มทุนไทยกับเครือข่ายอำนาจของฮุนเซ็น บางจากฯ ในฐานะบริษัทพลังงานรายใหญ่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทันทีเพื่อเปิดทางไปสู่อภิมหาโครงการแสวงหาประโยชน์จากปิโตรเลียมใต้อ่าวไทย

"นี่คือข้อสงสัยและความกังวลของประชาชนทั้งประเทศ หากเงินที่มาไล่ซื้อหุ้นบางจากฯ เป็นเงินสกปรกที่มาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา นั่นหมายความว่าทุนเทาข้ามชาติขนาดมหึมาเข้ามายึดประเทศไทยผ่านตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งยังมีข้อสันนิษฐานที่น่ากลัวว่าทุนเทามหาศาลอาจมายึดกุมระบบการธนาคารของประเทศไทยโดยตรง และสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือเงินสกปรกก้อนโตจะเป็นกำแพงกีดกันเม็ดเงินสุจริตที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเราจะสูญเสียโอกาสดึงดูดการลงทุนสมัยใหม่ สูญเสียการพัฒนาซัพพลายเชนที่สร้างงานให้กับแรงงานทักษะสูง เราอาจจะกลายเป็นดินแดนที่มีแต่มาเฟียข้ามชาติ" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวถึงกรณี "คูคอยน์" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตระดับโลก บริษัทแม่เคยถูกสหรัฐอเมริกาสั่งปรับเป็นเงินสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากประกอบธุรกิจโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่สามารถหยุดยั้งการฟอกเงินได้ ซึ่งคูคอยน์ได้ซื้อบริษัทที่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน และเป็นผู้ออก "สิริฮับ โทเคน" ของบริษัท แสนสิริฯ เป็นเหตุให้สงสัยว่าเหตุใดนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ จึงต้องควบ รมว.คลังด้วย

อย่างไรก็ดีการอภิปรายดังกล่าว ทำให้นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่าเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอก ซึ่งนายมงคล ได้ขอให้นายวิโรจน์ไม่อภิปรายพาดพิงบุคคลภายนอก โดยนายไชยวัฒนา ยืนยันว่า หากตนหรือพรรคเพื่อไทยมีส่วนได้ส่วนเสียให้เอาไปตัดหัวทิ้งได้เลย ตนเป็นเพื่อนกับนายวิโรจน์ ไม่อยากให้ฉวยโอกาส เพราะนี่คือการให้คำแนะนำกับรัฐบาลใหม่

ทำให้ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ไม่ต้องร้อนตัวขนาดนั้นก็ได้ นั่งเฉย ๆ อดทนนิดหนึ่ง ร้อนตัวจนหูดับเลยหรือไม่

ต่อมา นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า เป็นการตั้งข้อสงสัยไม่ได้ยืนยัน หากตัดตัวละครหรือใช้ตัวย่อจะทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรจะรู้ ว่าทุนเทาข้ามชาติจะเข้ามายึดประเทศ เราต้องปกป้องจากทุนสกปรก นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่าจะนำธนาคารอิสลามมาใช้ผูกบัญชีกับแพลตฟอร์มคูคอยน์ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อที่เข้ามาหนุนโครงการจีโทเคน ของกระทรวงคลังที่ออกพันธบัตรดิจิทัลอย่างเต็มตัว แม้ข่าวดีลการซื้อหุ้นธนาคารอิสลามจะไม่เกิดขึ้น แต่หากโครงการแซนด์บ็อกซ์ การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทได้เมื่อไร จะเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นการอนุญาตให้คริปโตสามารถใช้เป็นเงินสุดได้เลย หากเงินคริปโตที่มาจากเงินสะอาดก็จะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้ามีที่มาจากเงินสีดำเงินสกปรกเท่ากับว่าโครงการแซนด์บ็อกซ์จะกลายเป็นเครื่องฟอกเงินให้กับอาชญากรรมข้ามชาติ

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นมีความพยายามซื้อหุ้นบางจากแล้วยังเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์เอ็มเอฟซี ซึ่งเป็นการจัดการกองทุนของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกองทุนประกันสังคม และกองทุนประกันสังคมก็ถือหุ้นบางจาก 15.1 % นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติในสมัยที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.เกษตรฯ ได้เสนอเรื่องข้อกำหนดฝากหรือลงทุนของสหกรณ์ ที่เปิดทางให้สหกรณ์ทั่วประเทศนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ซึ่งมีรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ไปลงล็อกกับคุณสมบัติของเอ็มเอฟซี ประชาชนสายมูบอกว่าเป็นผลบุญที่เกิดจาก ร.อ.ธรรมนัสไปทำบุญร่วมกับนายเบนจามินที่ จ.อุตรดิตถ์ และบุญหล่นทับจากการทำบุญร่วมกันที่วัดดวงแข หากจำเรื่องของการขายอาคาร Skyy 9 ได้ ผ่านบริษัทเอ็มเอฟซีให้กับกองทุนประกันสังคม ถ้าไม่มองว่าเป็นเรื่องผลบุญต้องถามว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรเข้าข่ายการเอารัฐเอาเปรียบผู้ประกันตน และประเทศเรากำลังเผชิญหน้ากับขบวนการการเมืองที่เปิดช่องให้ย้ายเงินลงทุนเข้ามาเบียดบังผู้ประกันตนที่หรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่เล่ามาเป็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่สุจริตตรวจสอบได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าสมมติว่าเป็นเงินสีดำมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมไซเบอร์ ไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นหายนะระดับชาติ เท่ากับเรากำลังเปิดประตูเมืองให้ทุนเทาข้ามชาติเข้ามาหลอกคนไทย มีการตั้งข้อสงสัยว่าทุนเทาข้ามชาติเหล่านี้มักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานประเทศ มีการอุ้มสมเครือข่ายการเมือง ซื้อข้าราชการระดับสูง เป็นลูกสมุน ใช้เงินสีเทาไปซื้อเสียงกำหนดนโยบาย กดขี่ประชาชน นายกฯ รมว.คลัง และ รมช.คลัง จำเป็นต้องเร่งสั่งการให้ ป.ป.ช. ป.ป.ง. ตรวจสอบเร่งด่วน

"ถ้านายอนุทิน มีความตั้งใจต้องให้กระทรวงต่างประเทศและ ปปง. ลงนามอนุสัญญาต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ถ้าเราเปิดประเทศให้เงินสกปรกเข้ามาผสมพันธุ์กับนักการเมืองชั่ว อย่าว่าแต่หุ้นบางจาก ไม่ว่าเป็นหุ้น ปตท. กรุงไทย ไทยพาณิชย์ เงินสกปรกเหล่านี้ก็จะยึดได้ทั้งหมด" นายวิโรจน์ กล่าว