‘อนุทิน’ เผย ถามผม เลิกMOU43-44 ไปแล้ว แต่ให้เกียรติ ปชช. ประชามติ
“อนุทิน” ปัด โยนภาระ ปชช. ประชามติ ยกเลิก MOU43-44 แจง เป็นการให้เกียรติมากกว่า รอ กมธ. พิจารณาหากไม่เป็นประโยชน์กับไทย จึงเดินหน้า ข้องใจ20ปี ยังไม่เข้าใจกัน จะเก็บไว้ทำไม
ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาณ์ถึงกรณีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมประชามติ บัตร4ใบ คือ บัตรเลือกสส.เขต สส.บัญชีรายชื่อ ประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และประชามติยกเลิก MOU 43-44 ว่า เรื่องนี้ต้องเร่งทำความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบ ก่อนหน้านี้เคยทำประชามติหลายครั้ง รัฐบาลจะประสานหาความร่วมมือกับทุกฝ่าย อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทย ที่จะเร่งทำความเข้าใจ และความคุ้นเคยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อใช้สิทธิ์ให้ถูกต้องตามบัตรตรงคะแนน ซึ่งกรณีที่ประชาชนจะเกิดความสับสนเพราะมีบัตรหลายใบนั้น เป็นการคาดการณ์ของนายบวรศักดิ์ เพราะการลงคะแนนต้องใช้งบประมาณ 5-6 พันล้านบาทต่อครั้ง เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ ที่สำคัญเราต้องไม่ดูถูกภูมิปัญญาของประชาชนที่จะสามารถทำความเข้าใจได้ จากการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ว่าจะต้องลงคะแนนอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎร กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องรอผล หากผลออกมามีความชัดเจนว่าไม่ต้องศึกษา ก็อาจจะยกเลิกได้เลยโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอำนาจอยู่ที่ครม. เพียงแต่เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ได้เป็นการโยนภาระให้ประชาชน แต่เป็นการให้เกียรติมากกว่า เรื่องอะไรที่มีความแตกต่างทางความคิด และเป็นความสนใจเกี่ยวข้องกับอธิปไตยความมั่นคงของประเทศ ซึ่งทอดยาวมานานก็เลยอยากถามประชาชน หากผลการศึกษาออกมาแล้วชัดเจนว่าไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย และประเทศไทยไม่ได้เปรียบอะไรเลย อะไรที่ประเทศไทยได้เปรียบกัมพูชา เราก็เว้นไว้เราเลือกประเทศไทยก่อน ดังนั้น ถ้าหากชัดเจนก็อาจจะเลิกเลยก็ได้ ขอย้ำว่านี่เป็นการให้เกียรติประชาชน ถ้าถามผม ผมทำเองผมเลิกไปแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ถ้า MOU ทั่วไปจะเขียนว่าภายในสองปีหากไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ก็ต้องถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ดังนั้น ตนต้องดูบริบทใน MOU 43-44 ว่ามีการกำหนดให้มีการสิ้นสุดไปของ MOU นี้หรือไม่อย่างไร หากไม่มีการกำหนดเลย ตนก็จะบอกว่าทำไม 20 ปี ยังไม่มีความเข้าใจ ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ แล้วจะเก็บไว้ทำไมถ้าประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ ถ้าประเทศไทยได้ประโยชน์ก็จะเก็บ แต่ถ้าประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ก็จะเลิก
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน คือ MOA ตรงนี้ผูกพันเบี้ยวไม่ได้ 4 เดือนต้องยุบสภา แต่ MOU เมื่อเกิดความไม่เข้าใจกันเมื่อไหร่ก็ต้องเลิก นี่คือบริบทของตน แต่ก็มีคนพยายามไปตีความว่าจะต้องเลิกทั้งสองฝ่าย ตนมองว่าแบบนั้นต้องเป็นสัญญา ทั้งนี้ก็คงต้องฟัง และถามผู้รู้ทางกฎหมาย
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคง ให้ข้อมูลควรจะต้องยกเลิก MOU หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของครม. ถ้าจะตัดสินใจก็ต้องตัดสินใจโดย ครม.
เมื่อถามว่า แสดงว่ากรณีจำนวนบัตรเลือกตั้งและประชามติ ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการทำเรื่องยกเลิก MOU ด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอกรรมาธิการ