'วรวัจน์' ขุดอดีต ซัด '2รมต.' ต้นตอทำเกษตรกรขาดทุนแสนล้าน

'วรวัจน์' ขุดอดีต ซัด '2รมต.' ต้นตอทำเกษตรกรขาดทุนแสนล้าน

"วรวัจน์" ขุดอดีต ปี2553 ซัด "ศุภชัย-ธรรมนัส" ออกประกาศ ปล่อยพืชตัดต่อพันธุกรรมเข้าประเทศ ชี้เป็นต้นตอทำเกษตรกรขาดทุนหลายแสนล้าน จ่อยื่นป.ป.ช.-ศาล ฟันจริยธรรม

ที่รัฐสภา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภาวาระให้รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย แถลงนโยบาย ตอนหนึ่งว่า เมื่อปี2553  พรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ส่งนายศุภชัย โพธิ์สุ ไปเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และได้ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 10/2553 เพื่อนําพืชตัดต่อพันธุกรรมให้นําเข้าไปใช้ในอุตสาหกรรมได้ ซึ่งมีเนื้อหาขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)  กักพืช พ.ศ. 2507 ที่ห้ามนําเข้าพืชตัดต่อพันธุกรรม ยกเว้นเพื่อการวิจัยและการทดลองเท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวเท่ากับเปิดประตูการทำผิดกฎหมาย และเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะของเกษตรกรไทย ทำให้เงินรั่วไหลไปต่างประเทศกว่า 9แสนล้านล้าน ตลอด15 ปีที่ผ่านมา

นายวรวัจน์ อภิปรายต่อว่าและต่อมาในยุคที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี2567 พบการออกประกาศ เมื่อ 11 ก.ค. 2567 เรื่องการรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร ทำให้เกิดการนำเข้าพืชผลการเกษตรที่ได้จากการตัดแต่งพันธุกรรม ทำให้ราคาพืชผลการเกษตรของเกษตรกรไทยที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการมีราคาตกต่ำ  แทนจะได้ราคาสูง 

"นายทุนไปนําเข้าพืช GMO มาทดแทนพืชกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ทําให้เกษตรกร ขาดทุนขายสินค้าเกษตรไม่ได้ราคา หนี้สินพุ่งไม่หยุด 15 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียแล้วเกินกว่า 900,000 ล้านบาท เราจะไม่ลืมว่าใครเปิดประตูนําเข้าพืช GMO ในปี 2553 ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง และใครกําลังจะเปิดประตูเพื่อตัดต่อพันธุกรรมที่ชื่อ Gonome Edited ในวันนี้ ควรหยุดการสูบเลือดสูบเนื้อเกษตรกรไทย นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้ทางกฎหมาย แต่มันคือสงครามเพื่อเอาชีวิตรอดของประเทศ และเป็นการทวงคืนอนาคตของเกษตรกรไทย ประเทศไทยไม่ใช่ห้องทดลองของบริษัทข้ามชาติ และเกษตรกรไทยไม่ได้เป็นหนูทดลองให้ใครหลอกขายพืชตัดต่อพันธุกรรมอีก" นายวรวัจน์ อภิปราย

นายวรวัจน์ อภิปรายต่อว่า เพื่อหยุดความเสียหายต่อเกษตรกร ตนได้ยกร่างคำร้องเพื่อยื่นต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยด่วน ซึ่งหากพบการกระทำผิด ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อพิจารณา และเตรียมเสนอคำร้องต่อประธานสภาฯ เพื่อส่งไปยังให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความผิดจริยธรรมร้ายแรงและดำเนินการถอดถอนผู้ถูกร้องจากตำแหน่ง พร้อมตัดสิทธิทางการเมือง รวมถึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกถอนประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2553  และ ฟ้องศาลจังหวัด เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่เกษตรกร และร้องศาลปกครอง ให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2553 และให้จำเลยชดเชยค่าเสียหายแก่โจทย์พร้อมดอกเบี้ย

 "หากรัฐบาลมีความห่วงใยเกษตรกรจริงอย่างที่ปากพูด ต้องยกเลิกประกาศอัปยศเหล่านี้ทันที มิเช่นนั้นท่านอย่าคาดหวังเลยว่าเกษตรกรไทยมากกว่า 30 ล้านคนจะไว้วางใจ ให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี และให้ท่านทํานโยบายที่สูบเลือดสูบเนื้อ ดูดกินถึงกระดูก พี่น้องเกษตรกรไทยอีกต่อไป"  นายวรวัจน์ อภิปราย