รู้จัก ‘ประเทือง’ พี่ชาย ‘เจ๊เปี๊ยะ’ ก่อนวิวาทะ สส.ปชน.ปมฮั้ว สว.

ในการประชุมสภาฯช่วงบ่ายวันนี้ (29 ก.ย.) วาระการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” กำลังปั่นป่วนอย่างหนัก และกินเวลายาวนานเกือบ 2 ชม. พลันที่ “วาโย อัศวรุ่งเรือง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ขุดคุ้ยเงื่อนปม “ฮั้ว สว.” พร้อมเปิดพยานหลักฐานที่ถูกนำเสนอโดยสื่อ โชว์หรากลางสภาฯ

ทำเอาอุณหภูมิภายในห้องประชุมร้อนแรงอย่างหนัก มีบรรดา สว.ลุกขึ้นคัดค้านการอภิปรายดังกล่าวของ “ก๊กส้ม” หลายครั้ง จนเกิดการปะทะคารมกัน ทำเอา “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา ที่กำลังทำหน้าที่อยู่ โดนหางเลขไปด้วย ถูกกล่าวหาว่า “ทำตัวไม่เป็นกลาง” จนเจ้าตัวถึงกับต้องถามกลับว่า “ไม่เป็นกลางอย่างไร ให้อธิบายมา”

ทว่ามี สว.รายหนึ่ง ลุกขึ้นประท้วงด้วยน้ำเสียงดุเดือดคือ “ประเทือง มนตรี” กล่าวกลางสภาฯว่า “อยากถามคนที่อภิปราย ไม่ต้องพูดเรื่องข้อบังคับหรอก จะอภิปราย สว.ใช่ไหม หรืออภิปรายนโยบายของรัฐบาล ตอบมา เดี๋ยวได้เจอกัน” ทำเอา สส.ปชน.ประท้วงกลับหลายคนขอให้ถอนคำพูด โดยตอนแรก “สว.ประเทือง” ไม่ยอมถอน พร้อมถามกลับว่า ให้ถอนคำไหน จน “วันนอร์” ในฐานะประธานรัฐสภา ต้องขอให้ถอนคำว่า “เดี๋ยวเจอกัน” จนสุดท้ายเจ้าตัวต้องยอมถอน เพื่อลดความตึงเครียดในสภาฯ

หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ “ประเทือง มนตรี” ว่าเป็นใคร มาจากไหน แต่ “คนพัทลุง” น่าจะรู้จักเขาเป็นอย่างดี เพราะนามสกุล “มนตรี” คือนามสกุลเดิมของ “นาที รัชกิจประการ” หรือ “เจ๊เปี๊ยะ” ผู้มากบารมีแห่ง “เมืองหนังโนราห์” ซึ่งเป็นภริยาของ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม และแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทยในปัจจุบัน “แม่ทัพใหญ่สีน้ำเงิน” ประจำภาคใต้

สำหรับ “นาที” แม้จะเคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 9 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีเสียบบัตรแทนกันเมื่อปี 2566 และถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตก็ตาม แต่ปัจจุบัน “ตระกูลรัชกิจประการ” ยังคงมีบารมีสูงอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน

โดย “ประเทือง มนตรี” คือพี่ชายแท้ ๆ ของ “เจ๊เปี๊ยะ นาที” เขาเคยถูกผลักดันให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.พัทลุง สังกัดพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แต่เครือข่าย “เจ๊เปี๊ยะ” พ่ายแพ้ทั้ง 3 เขตยกจังหวัด โดยเก้าอี้ตกเป็นของ “ตระกูลธรรมเพชร” บ้านใหญ่พัทลุง ศัตรูทางการเมืองคนสำคัญในพื้นที่ ได้ไป 2 เก้าอี้ คือ “สุพัชรี ธรรมเพชร” ลูกสาวสุพัฒน์ ธรรมเพชร ชนะเขต 1 “นิติศักดิ์ ธรรมเพชร” ลูกชาย “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” ชนะเขต 2 และ “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชาย “นริศ ขำนุรักษ์” เข้าวินเขต 3

เมื่อพ่ายศึกยกจังหวัด สร้างความบอบช้ำแก่ “เจ๊เปี๊ยะ” อย่างมาก โดยได้ผลักดันเครือข่ายตัวเองไปนั่งเก้าอี้ข้าราชการการเมืองแทน ในส่วนของ “ประเทือง มนตรี” เคยถูกส่งเป็นที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ (นภินทร ศรีสรรพางค์) มาก่อนหน้านี้

กระทั่งในช่วงปี 2567 มี การเลือก สว. “ประเทือง มนตรี” ได้เข้าร่วมลงสมัครรับเลือก สว.ครั้งนี้ด้วย และผ่านเข้ารอบตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และรอบสุดท้ายระดับประเทศ จนเข้าวินได้เป็น สว.พัทลุง กลุ่ม 15 (กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ๆ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน)

สำหรับการเลือก สว.ปี 2567 ถูกหลายฝ่าย “กังขา” ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติการณ์ส่อ “ฮั้ว” ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จนถึงระดับประเทศ นำไปสู่การไต่สวนของ 2 องค์กรได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง ชุดที่ 26 ซึ่งดำเนินการเสร็จแล้ว และมีการแจ้งข้อกล่าวหาไป 229 คน ในจำนวนนั้นปรากฏชื่อ “บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” ด้วย ปัจจุบันอยู่ในชั้นการพิจารณาของเลขาธิการ กกต. อีกหน่วยงานหนึ่งคือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่สอบสวนประเด็น “อั้งยี่-ฟอกเงิน” จากการ “ฮั้ว สว.” ปัจจุบันอยู่ระหว่างเชิญพยานกว่า 1,200 ปากมาชี้แจง

ทั้ง 2 คดีดังกล่าว ถูกมองว่าดำเนินการอย่างเข้มข้น และรวดเร็วในยุค “รัฐบาลสีแดง” ทว่าเมื่อ “ฟ้าเปลี่ยนสี” มาเป็น “รัฐบาลสีน้ำเงิน” ต้องรอดูว่าคดีดังกล่าว ซึ่งถูกมองว่าอุกอาจที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จะมีบทสรุปออกมาในรูปแบบใด

ภาพประกอบจาก: ส.ว. ประเทือง มนตรี