'ทนายวิญญัติ' รับ 'ทักษิณ' ขอพระราชทานอภัยโทษ ครั้งที่ 2 จริง

'ทนายวิญญัติ' รับ 'ทักษิณ' ขอพระราชทานอภัยโทษ ครั้งที่ 2 จริง

'ทนายวิญญัติ' ยอมรับ 'ทักษิณ' ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ ครั้งที่ 2 จริง ยันเป็นสิทธินักโทษเด็ดขาด ปัดตอบรายละเอียด 'เอม-สามี' เข้าเยี่ยม ครั้งที่ 5 หลังขังมาแล้ว 20 วัน

KEY

POINTS

  • นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยืนยันว่าได้มีการยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเป็นครั้งที่ 2 จริง
  • ทนายวิญญัติ ระบุว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกรายตามกระบวนการ
  • กระบวนการยื่นเอกสาร และทำความเห็นในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าครั้งที่แล้ว คือประมาณ 14 วัน และไม่ได้เป็นการเร่งรีบ

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2568 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ วันนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 สำหรับการเยี่ยมญาตินายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ มาเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมญาติ ท่ามกลางตัวแทนมวลชนคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจาก จ.สิงห์บุรี และ จ.นนทบุรี มารวมตัวเตรียมรอให้กำลังใจสมาชิกครอบครัวชินวัตร และให้กำลังใจนายทักษิณ อย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากล่าสุดมีการยืนยันจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรมว่า นายทักษิณ ภายหลังเข้าไปคุมขังในเรือนจำจากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาบังคับโทษ 1 ปี ในคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ได้มีการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคล

โดย น.ส.พินทองทา บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี เดินทางมาด้วยรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Mercedes-Benz สีเทา ทะเบียน 5 ขจ 995 กรุงเทพมหานคร มีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ รอต้อนรับพาเข้าด้านในเรือนจำ

เมื่อ น.ส.พินทองทา และสามี มาถึงได้รีบเข้ายกมือไหว้ทักทายมวลชนคนเสื้อแดง ที่มารอให้กำลังใจด้านหน้าเรือนจำฯ คนเสื้อแดงต่างพากันตะโกนเสียงดังกึกก้องว่า "เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ" และขอถ่ายรูปคู่กับ น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงษ์ ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าวขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงตลอดเวลา

ทั้งนี้ ระหว่างที่ น.ส.พินทองทา กำลังจะเข้าไปด้านในเรือนจำ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ได้หันมารับฟังคำถาม ยิ้มรับ แต่ไม่ตอบคำถาม

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.ภายหลังที่ น.ส.พินทองทา และสามี ได้ใช้เวลาเยี่ยมนายทักษิณ ราว 30 นาที ได้เดินออกมาจากเรือนจำ เพื่อเตรียมขึ้นรถตู้ส่วนตัวเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามสอบถามอีกครั้งว่า นายทักษิณมีการยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เป็นครั้งที่ 2 จริงหรือไม่ ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ไม่ได้ตอบคำถาม และรีบก้าวเท้าขึ้นรถ ขณะที่ผู้สื่อข่าวยังสอบถามนายณัฐพงศ์ ว่า ยังสนใจรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) อยู่หรือไม่ ปรากฏว่า นายณัฐพงศ์ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยิ้มให้แทน

 

 

หลังจากนั้นเวลา 11.40 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า อาการสุขภาพของนายทักษิณตอนนี้ ก็ยังมีอาการป่วย แต่ก็ยังสุขภาพดูดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้น เพราะท่านก็พยายามรักษาตัวเอง พยายามปรับตัวให้ได้เมื่ออยู่ข้างใน ส่วนกิจวัตรประจำวันท่านก็ยังทำปกติเหมือนเดิม อย่างไรก็ดี ตนพูดไปหลายครั้งแล้วว่าอาการของท่านหลักๆ ก็คือ เกี่ยวกับเรื่องความดัน เรื่องระบบหัวใจก็ต้องระวัง ส่วนที่เราเป็นกังวลก่อนหน้านี้ก็คือ อาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอที่จะไปทับเส้นประสาทหรือไม่ นี่คือ เรื่องที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามอายุของท่าน เพราะท่านก็มีอาการมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงพยาบาล และในเมื่อท่านอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้อยู่ใกล้หมอขนาดนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ว่าการเดิน หรือการทำกิจวัตรต่างๆ ก็ระวังมากขึ้น

ทนายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการปวดกระดูกต้นคอ ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวัง มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวัง แม้ยังไม่ถึงขนาดเดินไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ก็ต้องระวังมากขึ้น ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการนอนหลับ ตนไม่ได้คุยกับท่าน ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ อาจนอนหลับบ้างไม่หลับบ้าง ตนคาดเดา เพราะไม่ได้สอบถาม แต่ย้ำว่าสีหน้าดีขึ้น ก็แสดงว่ามีการดูแลตัว และปรับตัวเองได้ดี อย่างไรก็ดี เรื่องความดันก็มีการตรวจตลอด แต่ตนไม่ได้สอบถามเช่นกัน ซึ่งในเรือนจำฯ ก็มีแพทย์เข้าตรวจสุขภาพเป็นรอบๆ อยู่แล้ว และท่านก็เป็นผู้สูงอายุ อยู่ในแดนพยาบาล ตนมองว่าเรื่องเหล่านี้ก็ทำเป็นปกติ จะให้ลงรายละเอียดลึกตนคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นข้อมูลเรื่องสุขภาพของท่าน

นายวิญญัติ กล่าวถึงการเยี่ยมญาติผ่านวิดีโอคอลไลน์ ว่า การเยี่ยมญาติทางไลน์เป็นเรื่องปกติของกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะเรือนจำฯ แต่ละที่ก็มีกันอยู่แล้ว และตนเชื่อว่าญาติและครอบครัวของท่านก็ยังประสงค์เข้าเยี่ยมแบบเห็นหน้าเห็นตากัน เพราะถือเป็นการให้กำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากจะติดภารกิจจริงๆ ก็อาจเยี่ยมทางไลน์แทน แต่การเยี่ยมทางไลน์ก็มีการลงทะเบียนไว้อยู่แล้ว แต่ขอสงวนว่าใครลงทะเบียนบ้าง

ส่วนกรณีว่าเรือนจำฯ มีกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดด้วยนั้น นายวิญญัติ เชื่อว่า ถ้ามีเยี่ยมญาติใกล้ชิด ท่านก็ต้องได้รับสิทธิ์ ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร ทุกครอบครัวก็คงต้องมาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ท่านทักษิณยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เรื่องอื่นๆ ที่ทนายความกับลูกความคุยกันก็มักเป็นเรื่องปกติทั่วไป ว่าเรื่องอะไรบ้างที่เราทำอยู่และเป็นข้อห่วงใย นอกจากนี้ ท่านยังได้ขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงและประชาชนที่เป็นห่วงท่าน ส่วนพี่น้องที่มาจัดกิจกรรมหน้าเรือนจำฯ โดยส่วนตัว ตนขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะอยู่ในสถานที่ราชการ พี่น้องเรามาแสดงพลังก็ดีแล้ว ท่านก็ไม่ได้สั่งการหรือมอบหมายอะไรมา ท่านขอบคุณมาก

เมื่อพยายามสอบถามถึงกรณีผลการเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่ผ่านมา ว่าได้แจ้งให้นายทักษิณ ทราบหรือไม่นั้น นายวิญญัติ รีบปฏิเสธไม่ขอให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง และขออภัยสื่อมวลชน ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าวก็พยายามถามถึงกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 นายวิญญัติ กล่าวว่า ได้มีการยื่นขอไปจริง และถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกราย เป็นสิทธิตามกระบวนการ และเราก็ดำเนินการหลายวัน และครั้งนี้ก็ดำเนินการนานกว่าครั้งที่แล้ว พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นพระราชอำนาจเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่าน ไม่อาจก้าวล่วงได้

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 สามารถทำได้หรือไม่ นายวิญญัติปฏิเสธไม่ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าว แต่กล่าวว่าการยื่นทูลเกล้าฯ เป็นกระบวนการทางเอกสารและทำความเห็นประมาณ 14 วัน ใช้เวลามากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งใช้เวลา 6 วัน การยื่นครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการเร่งรีบ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์