‘อนุทิน’ เผย ดีใจ เรตติ้งนายกฯ เพิ่ม เป็นน้ำทิพย์ชโลมใจ

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 29-30 ก.ย.นี้ ว่า ร่างนโยบายเราได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ตามรัฐธรรมนูญนายกฯต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ พรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งพักร้อน2เดือนที่ผ่านมา สิ่งที่เราอยากะทำเราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เป็นนายกฯ จะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามว่า หลายคนคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนักคะแนนความนิยมในตัวนายกฯเพิ่มขึ้นนั้น นายกอนุทิน กล่าวว่า เราจะต้องไม่ไปหลงใหลได้ปลื้มกับโพลความนิยม หากถามว่าดีใจหรือไม่ ตนดีใจ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนสติว่ามีความคาดหวังเกิดขึ้นจากประชาชน การที่ประชาชนคาดหวัง ให้กำลังใจ และให้ความเชื่อมั่นถือเป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ เราก็ต้องทำงานอย่างหนัก ทำงานตอบแทนเพื่อไม่ให้น้ำทิพย์ที่เป็นยาพิษ ยอมรับว่ากดดัน เพราะการทำงานต้องมีแรงกดดัน แต่เราต้องไม่ท้อถอย และต้องทุ่มเท สไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย หากจำได้นั้น คือการทำได้เร็ว ทำได้เลย ช่วงเวลาที่ไม่ยาวนานนักก็เข้ารูปแบบการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราอาจจะผ่านมาในช่วงที่ประเทศไทย ต้องการเห็นผล quick win มาโดนตลอด ดังนั้น เราจึงมีความคล่องตัว และถนัดในการทำงานแบบ quick win และจะมีการวางแผนและวางฐานให้กับรัฐบาลชุดต่อไปเพื่อเข้ามาสานต่อได้

เมื่อถามว่า นโยบายอะไรที่จะเห็นผลได้ทันทีหลังแถลงนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องของความมั่นคงหรือเศรษฐกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าการที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ตนก็เชื่อว่าทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่าจุดยืนของรัฐบาลชุดนี้เป็นเช่นไร นายสีหศักดิ์ ได้นำแนวทางและนโยบายของรัฐบาล ได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนเดินทางไป ยืนยันว่าเราจะแสดงจุดยืนในครั้งนี้ ถือว่านายสีหศักดิ์ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีความภาคภูมิใจ คนที่ตั้งมาก็ดีใจว่าบุคคลที่มอบหมายให้มาทำงานมีความเชี่ยวชาญและถนัดในด้านนี้

นายอนุทิน กล่าวถึงการยั่วยุของกัมพูชาว่า เราต้องอดทน ยิ่งเราอดทนได้มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้นานาชาติเห็นว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง ด้วยวัฒนธรรมประเพณีของไทยไม่เคยไปรุกรานใคร ดูจากประวัติศาสตร์ได้ บทเรียนที่ผ่านมาจะเห็นความอัปยศอดสู สูญเสียอธิปไตย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ตนจะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย ส่วนประชาชนที่อพยพเราจะเร่งจัดการเรื่องความปลอดภัยให้ หากถึงเวลาที่จะต้องตอบโต้ แต่ขณะนี้ไม่เหมือนกับการทำงานในรัฐบาลชุดที่แล้ว ตนไม่ได้ไปโทษอะไร เพราะสมัยที่ตนอยู่ในรัฐบาลที่แล้วก็ควบคุมได้เฉพาะฝ่ายปกครองไม่สามารถเชื่อมต่อได้ 100% กับฝ่ายทหารต้องผ่านตัวกลาง แต่รัฐบาลชุดนี้จึงไม่มีรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายกฯดูแลเองทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ขณะเดียวกันต้องดูแลไม่ให้ประเทศไทยถูกรุกราน 

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตนายสีหศักดิ์ ไปประชุม UNGA อาจขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ให้ไปดูมติครม. ความจำเป็นเร่งด่วน ถ้าสิ่งที่ท่านได้ทำในวันนี้ แล้วยังบอกว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับประเทศก็ไม่ทราบว่าจะตีความอย่างไรแล้ว จริงๆ ก็ไม่ควรถามคำถามนี้ เพราะถามแล้วจะให้ประชาชนสับสนสิ่งที่นายสีหศักดิ์ทำเป็นการทำความสง่างาม ทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี ทำให้คนรู้ว่าประเทศไทยของเรารักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู มีความชัดเจนในจุดนั้น ความจริงตนจะไปเองด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่ต้องมานั่งถามว่าจะไปได้หรือไม่ เพราะการไปรักษาประเทศโดยที่รัฐบาลยังไม่แถลงนโยบายเป็นคนละเรื่องกันเลย ทั้งนี้ ตนมั่นใจในประสบการณ์และความสามารถของนายสีหศักดิ์ จึงกล้ามอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่ตนจะได้ทำการแถลงนโยบายให้ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อที่รัฐบาลจะได้เริ่มดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินได้ทันเวลา ซึ่ง4เดือนยุบสภา