ปั่นเรตติ้ง'รัฐบาลพาร์ตไทม์' ‘ทวงคืนอธิปไตย’ปูทางเลือกตั้ง

4 เดือนในการทวงคืนผืนแผ่นดินไทย ตีกรอบกัมพูชา จึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลภูมิใจไทย ที่อาจพลิกวิกฤติ เป็นโอกาสในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
KEY
POINTS
- ความมั่นคง” ในห้วง“กระแสรักชาติ”มาแรง อนุทินให้ความสำคัญเรื่องการปกป้องอธิปไตยมาเป็นลำดับแรก เน้นย้ำการทำตามฉันทามติประชาชน ที่ย่อมมีผลต่อความนิยมรัฐบาล
- คำแถลงนโยบายรัฐบาล จะไม่ได้ระบุถึงไทม์ไลน์ว่า 4 เดือนตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน แต่การแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกจับตาว่า รัฐบาลจะมีประเด็นใดเป็นรูปธรรม
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ ที่จะปรากฎในคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
โดยก่อนหน้านี้ นายกฯ กำชับ กระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องการขับเคลื่อนการทำงานของรัฐบาลในห้วงเวลาจำกัด ให้สอดรับภารกิจเร่งด่วนรัฐบาลที่ได้กำหนดไว้ 4 ประการ
1.ปัญหาเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย ค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ แก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย และเสริมสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ ประชาชน และตลอดจนชุมชนท้องถิ่น
2.กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา มุ่งแนวทางสันติภาพ ลดความสูญเสียของประชาชน แต่จะยึดหลักการไทยไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว คนไทยต้องไม่เสียประโยชน์ และดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข โดยรัฐบาลจะเร่งชดเชยให้ประชาชนประสบภัยรวดเร็วและครอบคลุม
3.เรื่องภัยธรรมชาติ ต่อยอดระบบเตือนภัย สร้างระบบเยียวยาฟื้นฟู เร่งชดเชยผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงทีและเป็นธรรม
4.แก้ปัญหาภัยสังคม โดยจะเร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน การพนันออนไลน์ โดยสร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน และมิตรประเทศ
โดยคำแถลงนโยบายของนายกฯ จะมีเนื้อหาสาระเป็นภาพกว้างๆ ในการเดินหน้าทำงานแต่ละด้าน ไม่ลงลึกรายละเอียดแนวปฏิบัติ เป็นเพียงนามธรรม
สำหรับเรื่อง“ความมั่นคง” ในห้วง“กระแสรักชาติ”มาแรง อนุทินให้ความสำคัญเรื่องการปกป้องอธิปไตยมาเป็นลำดับแรก เน้นย้ำการทำตามฉันทามติประชาชน ที่ย่อมมีผลต่อความนิยมรัฐบาล
วัดได้จากหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.ศรีษะเกษ เขต 5 ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดน ไทย-กัมพูชา อนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขนแกนนำพรรคขึ้นปราศรัยหาเสียง หวังใช้โอกาสนี้ตีไข่แตก
"มาเวทีนี้หลายครั้งแล้ว แต่พี่น้องยังไม่ให้ สส.ผมเลยสักครั้ง ครั้งนี้ขอให้ไข่แตกเลยได้ไหม นายกฯ ขอนะ ได้หรือเปล่า สัญญาแล้วนะวันนี้มีพวกเรา"
"อยากให้เปิดด่าน หรือปิดด่าน ถ้ามีให้ยกมือ (ชาวบ้านยกมือ) อุ๊ยตาย! แบบนี้ใครจะให้เปิดเล่า เพราะชาวบ้านไม่มีใครยกมือเลย ขนาดชาวขุนหาญ-ชาวภูสิงห์ ยังบอกให้ปิดด่าน แล้วชาวไทยทั้งประเทศก็บอกให้ปิดด่าน สุนัขตัวไหนจะกล้าเปิด อย่าว่าแต่สุนัขไม่กล้าเปิดเลย หนูยิ่งไม่กล้าเปิดใหญ่เลย ผมคนไทยนะครับ ผมนายกฯ ของพวกท่านครับ ไม่ใช่นายกฯ ของเพื่อนบ้าน ไม่ใช่นายกฯกัมพูชา” อนุทิน กล่าว
แม้ในคำแถลงนโยบายรัฐบาล จะไม่ได้ระบุถึงไทม์ไลน์ว่า 4 เดือนตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน แต่การแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกจับตาว่า รัฐบาลจะมีประเด็นใดเป็นรูปธรรม
หากพิจารณาความคืบหน้าการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิง ยังมีลักษณะ“พายเรืออยู่ในอ่าง” บางหัวข้อเหมือนจะได้ข้อสรุป แต่สุดท้ายยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า การแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติ จะมีข้อยุติและยั่งยืนอย่างไร
เช่น กัมพูชา ตอบรับการเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 จ.สระแก้ว และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กปช.จต.) แต่ไม่ตอบรับ พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นจุดต้นเหตุ
การยั่วยุยังเกิดขึ้นตลอดแนวชายแดน โดยน้ำหนักสถานการณ์สลับกันระหว่างพื้นที่ ทภ.2 กับ ทภ.1 ส่วนพื้นที่ กปช.จต. ถูกจับตาปัญหา “กาสิโน” ที่สร้างรุกล้ำเส้นเขตแดนไทย และกลายเป็นจุดเฝ้าระวังสถานการณ์ในอนาคต
ในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลคงไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ให้จบลงได้ เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณที่ดีจากฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะการถอนกำลังทหาร ยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ในคำแถลงนโยบายรัฐบาลเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา หากลงลึกในรายละเอียดที่กระทรวงกลาโหมตั้งเป้าจะดำเนินการให้ได้ข้อสรุปขั้นต้น ในระยะเวลาอันสั้นนี้
กรณีพื้นที่อ้างสิทธิ์ตลอด ชายแดนไทย-กัมพูชา จะผลักดันเข้าสู่กรอบการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) หลังจากคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการ JBC ชุดใหม่ จึงจะเดินหน้าประชุมร่วมฝ่ายกัมพูชาทันที
ขณะที่การเจรจายังดำเนินการอยู่ กระทรวงกลาโหมได้ให้อำนาจเต็มที่กับกองทัพ หากมีเหตุจำเป็น หรือพบทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทยให้ตอบโต้ตามกฎการปะทะ
สำหรับกรณีบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พื้นที่อธิปไตยไทย จะเห็นเป็นรูปธรรมในขั้นต้นห้วง 4 เดือนของ รัฐบาลอนุทิน โดยกำลังดำเนินการ กรณีชาวกัมพูชารุกล้ำกว่า 200 หลังคาเรือน
ตามเดดไลน์ ปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว ได้เสนอให้ อุม เรีย ตรัย ผู้ว่าฯ บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย จัดทำแผนการอพยพคน นำเข้าสู่การพิจารณาการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) วันที่ 10 ต.ค.2568 นี้ โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว. กลาโหม เป็นประธานฝ่ายไทย และเตีย เซรย ฮา รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานฝ่ายกัมพูชา
ส่วนฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้กับฝ่ายกัมพูชาเดินหน้าให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเป็นรูปธรรมในอนาคต ลดผลกระทบต่อคนกัมพูชา 200 ครัวเรือนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ หากกัมพูชาไม่มีแผนมาเสนอในวันที่ 10 ต.ค.โดยไม่สามารถชี้แจงเหตุผลได้ ฝ่ายไทยขอสงวนสิทธิ์จัดระเบียบในพื้นที่อยู่ในอธิปไตยของไทย ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่
ส่วนการจับกุมตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และพ.ร.บ.ป่าไม้ จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะนำมาบังคับใช้ กรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือ
ดังนั้น "งานด่วน" ที่นายกฯอนุทิน ต้องเร่งแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้เงื่อนไข 4 เดือนในการทวงคืนผืนแผ่นดินไทย ตีกรอบกัมพูชา จึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลภูมิใจไทย ที่อาจพลิกวิกฤติ เป็นโอกาสในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง







