'สภา' เบรก ถกร่างกม.อากาศสะอาด หลัง 'พท.' ชงถก 'ถนนสามเสน' ยุบ

สภาฯ เบรก ร่างกม.อากาศสะอาด หลังมีปัญหาองค์ประชุม “พท.” ชงให้ถก ปมถนนทรุด หวังเสนอแนะทางออกให้ “อนุทิน” ไปแก้ปัญหาให้คนกรุง
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาทำเนื้อหาสาระ นานกว่า 1 ปี 8 เดือน ก่อนเสนอให้สภาฯ พิจารณาวาระสอง และวาระสาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดนั้น กมธ.มีการแก้ไขเพิ่มเติมและเพิ่มบางมาตราขึ้นใหม่ ทำให้มีเนื้อหาเกือบ 300 มาตรา ทำให้นายไชยา แจ้งกับที่ประชุมก่อนเริ่มวาระพิจารณาว่า เนื้อหาสาระมีผู้ขออภิปรายน้อย แต่ต้องใช้การลงมติเกือบทุกมาตรา
ผู้สื่อข่าวรายงาานว่าบรรยากาศของการประชุมต้องใช้เวลารอองค์ประชุมนานกว่า 5 นาที ตั้งแต่มาตราแรก จนถึงมาตรา 15 พบว่ามีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 6-7 เสียงเท่านั้น และเมื่อที่ประชุมได้พิจารณามาถึง มาตรา 16 ในช่วงเวลา 12.00 น. นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย หารือว่า ขอให้พักการประชุมเพื่อให้ไปรับประทานอาหารกลางวัน แต่หากที่ประชุมไม่พักตนจะขอพักเอง
ทำให้นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกอภิปรายว่า ตนไม่ขัดข้องที่จะพักการประชุม เพราะเห็นใจ สส. แต่ตนชักเหลืออด ในห้องประชุม สส.พรรคภูมิใจไทย สส.พรรคประชาชน นั่งครบ แต่พรรคไหนหายไปตนขอไม่พูด หากพักทานข้าวขอให้แจ้งสส.ทุกพรรคกลับมาเป็นองค์ประชุม มาร่วมทำกฎหมายที่ ครม. ชุดที่แล้วเสนอ และคนที่นำไปหาเสียงไม่ใช่พรรคตน แต่พรรคตนต้องมาแบก ตั้งแต่เมื่อวานนี้
"หากทำแบบนี้ 50-60 คน ผมพร้อมถอนฟืนจากไฟ หากอะไรจะเกิดก็เกิด ในห้องประชุม กมธ.ที่นั่งอยู่เห็นแบบเดียวกัน แต่ประชาชนมองไม่เห็น ว่าใครที่หายไป ดังนั้นหากอยู่ในสภาพนี้ ขอให้ถอนออกไป หากกมธ.ตามพรรคพวกไม่ได้ ขอให้ถอน พร้อมเมื่อไรกลับมา สภาเหลือเวลาไม่มาก จะได้ใช้เวลาพิจารณากฎหมายฉบับอื่นที่สส.เห็นความสำคัญมากกว่านี้”นายกรวีร์ อภิปราย
ทำให้นายไชยา กล่าวว่า ตนขอให้แสดงตนก่อน และจะพิจารณาว่าจะให้พักหรือไม่ ทั้งนี้พบว่าต้องใช้เวลารอการแสดงตนเกือบ 10 นาที ก่อนที่จะมีผู้มาแสดงตนเป็นองค์ประชุม 253 คน เกินองค์ประชุมที่ต้องใช้ 246 เสียง มาเพียง 7 เสียงเท่านั้น จากนั้นได้ลงมติผ่านมาตรา 16 ก่อนจะพักประชุมไป 40 นาที
อย่างไรก็ตาม สส.พรรคประชาชนเห็นแย้งและขอให้เดินหน้าต่อ โดยนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ว่า อากาศสะอาด หรือถนนทรุด อะไรสำคัญกว่ากัน แต่คือ พรรคเพื่อไทยไม่สามารถให้คนมาร่วมประชุมได้ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้า ตนจับเวลาพบว่าแม้ไม่มีการอภิปราย แต่ต้องใช้เวลารอองค์ประชุม 3-8 นาที ดังนั้นเมื่อคิดเวลา 300 มาตรา ทำให้ต้องเสียเวลา ถึง15 ชั่วโมง เพื่อรอพรรคเพื่อไทยเป็นองค์ประชุม
ทำให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โต้แย้งว่าตนแจ้งว่า สส.พรรคเพื่อไทย พยายามเป็นองค์ประชุม ให้ความร่วมมือ ตนอยากให้กฎหมายผ่าน และมีอีกหลายฉบับที่รอเข้าสู่วาระของสภาฯ ตนแต่ไม่อยากให้กล่าวหากันเพราะไม่ถูกต้อง เพราะฐานะฝ่ายค้านได้รับผิดชอบต่อองค์ประชุม ไม่เหมือนบางพรรคที่ประกาศว่าอยู่อย่างไร้ตัวตนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดีก่อนที่ประชุมจะโต้แย้งกันนานกว่านี้ นายไชยา วินิจฉัยว่าขอให้ที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. จนถึงส่วนที่ 3 ไปพอสมควร ก่อนจะเลื่อนการพิจารณาไปสัปดาห์ถัดไป เพื่อให้สภาฯ พิจารณาถึงประเด็นถนนทรุด และถามความเห็นของกมธ.
ทำให้นายจักรพล ชี้แจงว่าขอความร่วมมือสภาฯ พิจารณาเนื้อหา ซึ่งร่างกฎหมายนี้ทำมา 1 ปี 8 เดือน ผลักดันมานาน ยอมรับว่าเมื่อมีร่างกฎหมายเสนอมา 7 ฉบับต้องพิจารณาให้รอบคอบและมีมาตรากว่า 278 มาตรา ดังนั้นขอความร่วมมือให้ผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ดีหากจะเลื่อนออกไปเป็นการประชุมครั้งถัดไป ไม่ขัดข้อง







