'เฉลิมชัย' กอด'เดชอิศม์' สยบปมร้าวปชป. ยันข่าวย้ายพรรคแค่วิเคราะห์ แต่ไม่ฟันธง

'เฉลิมชัย' กอด'เดชอิศม์' โชว์สื่อ ย้ำสัมพันธ์ 'ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย -ไม่ขายเพื่อน' ยัน2คนไม่ลงชิงหัวหน้าพรรค ส่วนข่าววางมือ ย้ายพรรคซบ 'ภูมิใจไทย-กล้าธรรม'แค่วิเคราะห์ แต่ไม่ฟันธง จ่อคุย'อภิสิทธ์' สัปดาห์หน้า
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคแถลงร่วมกันถึงกระแสข่าวรอยร้าวภายในพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่มีอะไรต้องแก้ข่าว แต่อยากจะอธิบายว่า วันนี้ตนได้เข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อติดตามในเรื่องการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่18ต.ค.นี้เรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานได้ประสานกับรักษาการเลขาธิการพรรคเนื่องจากตนได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การประชุมใหญ่มัญของพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นการดำเนินการโดยปกติอยู่แล้วอย่างครั้งที่แล้วก็3รอบ ครั้งนี้ส่วนตัวอยากให้รอบเดียวจบจะได้ขับเคลื่อน แต่ก็เป็นอย่างที่ตนเคยพูด2สิ่งที่คาดเาไม่ได้คืออนาคตและใจคน
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้วหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยเพราะนายอภิสิทธิ์เดินทางไปประเทศจีนแต่ก็คงจะได้คุยกันคงรอให้ท่านกลับมาก่อน
ส่วนที่ระบุว่าตนจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์นั้นขอคุยก่อนยืนยันว่าใครก็ตามที่มีความตั้งใจที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคไม่มีอคติ ท่านเลขาชายเดชอิศม์ก็เช่นเดียวกัน
"ผมยืนยันแทนด้วย ไม่มีเป็นอุปสรรคกับการเลือกตั้งและไม่ต้องห่วงผมยืนยันว่า เราสองคนไม่รับตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่แข่งหรอกครับ จะได้ชัดเวลาคนไปคิดเองแล้วไปเขียนมันไม่ตรงพอมันไม่ตรงสังคมสับสน"
ถามย้ำว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ในพรรคก็ยังไม่ได้แตกแยกเหมือนที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับผมเป็นคนรอมชอมที่สุด
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรค ทั้งในส่วนของตนและนายเดชอิศม์นั้น ตอนนี้ข่าวก็คือข่าวตนเองก็ไปที่เมืองตรังมาและมีการพูดคุย กับนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรัง ซึ่งเป็นบุคคลที่เคารพรักและมีการวิเคราะห์การเมืองในหลายประเด็น แต่มีการวิเคราะห์ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กับภาคใต้ ซึ่งการวิเคราะห์ของตนก็เป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการเมืองมา 30 ปีกับสถานการณ์การเมือง
ส่วนการที่นายสมชายจะเอาคำวิเคราะห์ของตนไปฟันธงส่วนตัวมองว่าเหมือนกับผู้จัดรายการทั่วไปที่วิเคราะห์หรือฟันธงว่า ควรจะเป็นอย่างนี้แต่ตอนเรียนว่าเป็นเพียงการวิเคราะห์ของตนการ ฟันธงยังไม่มีอยู่ในความรู้สึกความนึกคิดทั้งหมดจนกว่าตนจะได้คุยกับสส.พรรคให้ครบ
“การฟันธงของผมทุกอย่างยังอยู่ในความรู้สึก ยังไม่ได้อยู่ในความนึกคิดทั้งหมดจนกว่าผม จะได้คุยกับสส.ของพรรคให้ครบ คุยกับคนที่จะมาสานงานต่อตรงนี้ให้เรียบร้อยและได้หัวหน้าพรรคได้กรรมการบริหารพรรคเรียบร้อยหลังวันที่ 18 ต.ค.ถึงจะเริ่มต้นคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพราะฉะนั้นช่วงนี้ขอพักซักนิดนึงไม่เห็นเหรอหน้าผมสดใสขึ้นเยอะ”
เมื่อถามว่า หลังวันที่ 18 ต.ค. จะมีความชัดเจน ใช่หรือไม่ว่า จะวางมือหรือไปอยู่พรรคไหน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า คำว่าพักก่อนหมายถึงพักช่วงนี้สักเดือนนึง เอาเป็นว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้หลังวันที่ 18ต.ค. ตนจะต้องใช้เวลาคิดทุกอย่าง
"ที่ผมทำผมยังห่วงน้องๆใครจะว่าโบราณก็โบราณไม่ฆ่าน้องไม่ฟ้องนายไม่ขายเพื่อน ตัวตนผมตัวจริงยังมีครับคำนี้ยังใช้ได้อยู่และยังมีอยู่ในประเทศไทย"
ถามย้ำว่าหลังวันที่ 18 ต.ค.โอกาสที่จะไปต่อกับพรรคประชาธิปัตย์มีมากน้อยแค่ไหน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกไม่มีใครรู้อนาคตกับใจคนไม่มีใครรู้
อย่างไรก็ดีในส่วนของนายอภิสิทธิ์นั้นหากมีโอกาสก็คงที่จะได้พูดคุยกันโดยในส่วนความสัมพันธ์ของตนกับนายอภิสิทธิ์ ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้มีปัญหาอะไรกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเราก็ต้องคุยกันเพราะตนก็อยากให้พรรคมีกรรมการบริหารและขับเคลื่อน
เพราะฉะนั้นข่าวต่างๆทั้งหมด ตนบอกนักวิเคราะห์ทั้งหมดเลย วันนี้ท่านวิเคราะห์ไปยังไม่ใช่ความจริงมันหนีไม่พ้น ถ้ามันเป็นความจริงมันก็ต้องเป็น แต่ถ้ามันไม่ใช่วิเคราะห์ไปแล้วได้แค่สนุก ได้แค่มันในอารมณ์แต่ว่าจริงๆควรที่จะต้องรอข้อเท็จจริงเลยดีกว่าสังคมจะได้ไม่สับสน
ถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายเฉลิมชัยจะไปภูมิใจไทยหรือพรรคกล้าธรรม นายเฉลิมชัย ยืนยันว่า ยังไม่ได้ได้คิดตนเป็นคนเล่นการเมืองมีพรรคพวกพี่น้องตนสนิทเกือบทุกพรรคการพูดคุยกินข้าวมีเป็นเรื่องปกติ แต่ตนก็บอกทุกคนแล้วว่า การตัดสินใจทางการเมืองตนอยู่บนความรับผิดชอบอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ คือจะต้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ขับเคลื่อนได้ก่อน ได้มีผู้นำหลังจากจบตรงนี้ถ้าให้ตนคิดณ วันนี้ยังไม่ใช่ยืนยันว่าต้องรอบคอบและยึดประโยชน์ของพรรคด้วย เรื่องดังกล่าวต้องอยู่ที่สส.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะนี้นายเฉลิมชัย ได้สวมกอด นายเดชอิศม์พร้อมระบุว่า ไม่มีครับคนอย่างผมไม่ฆ่าน้องไม่ฟ้องนายไม่ขาย เพื่อนจำไว้เลยครับ แล้วถ้าบอกว่าผมกับเลขาอาจจะเป็นความรู้สึกของคนที่เข้าใจไปอย่างนั้นแต่ถ้าเป็นคนที่รู้จักตัวตนของผม ไม่มีคนที่รู้จักตัวตนของท่านก็ไม่มี
ถามย้ำว่า ไม่ทะเลาะกัน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่มีทะเลาะกันไปทำไมคนเราเวลาก็เหลือน้อยเต็มที จะทะเลาะกันไปทำไม ตนไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้งโกรธ คือโง่โมโหคือบ้าไม่โกรธ ไม่โมโห ผมคบกันทั้งชีวิต ผมคบกับใครผมคบทั้งชีวิตเหมือนผมสนิทอยู่กับท่านอภิสิทธิ์มาผมก็คบกับท่านอภิสิทธิ์ทั้งชีวิตเหมือนกัน ผมเลือกคบคนที่ผมอยากคบบางคนที่ผมไม่อยากคบผมก็ไม่คบ ไม่มีอะไรไม่มีใครบังคับผมได้
ด้านนายเดชอิศม์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่ามีคนทาบทามไปอยู่พรรคกล้าธรรม ยืนยันว่า ไม่มี เป็นการรับประทานอาหารกันปกติผมยังอยู่กับเฉลิมชัย







