ผบ.ทร. ถาม กาสิโน กัมพูชา จะรื้อเองหรือยกให้ไทยใช้ประโยชน์

ผบ.ทร. ถาม กาสิโน กัมพูชา จะรื้อเองหรือยกให้ไทยใช้ประโยชน์

“ผบ.ทร.”  ถาม กาสิโนชายแดน - กัมพูชา จะรื้อเองหรือยกให้ไทยใช้ประโยชน์ - ยัน พื้นที่ไทย ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ

วันที่ 23 ก.ย.68 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพื้นที่พิพาทชายแดนจันทบุรี และตราด ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ที่มีการสร้างกาสิโนที่รุกล้ำพื้นที่อ้างสิทธิของไทย ที่ประชาชนรู้สึกคับข้องใจอยู่ขณะนี้นั้นว่า อย่าใช้คำว่าพื้นที่อ้างสิทธิ และขอให้ไปเรียกว่าเป็นสิ่งที่เราขีดเส้นเอาไว้ และตนไม่อยากไปรื้อฟื้นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีใดแต่สิ่งที่เราควรจะทำต่อหรือเดินหน้าต่อคือ ต้องทำให้มีความชัดเจน หากเราดูแล้วว่ามันรุกล้ำจริง  เราก็ต้องไปถามคนที่เคยทำว่าที่ตรงนั้นเป็นของใคร 
“คุณจะรื้อออกไปเอง หรือจะให้เรารื้อเอาไปให้ หรือว่าหากเราเห็นว่าเป็นประโยชน์แล้วยกให้เราใช้ประโยชน์ได้หรือไม่” พลเรือเอก จิรพล กล่าว 

โดย พลเรือเอก จิรพล ระบุต่อว่า สิ่งที่ตนพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ช่องทาง และเสนอทางออก ที่ควรจะได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายหากเขาเข้าใจ ว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่พื้นที่ของเขา ข้อตกลงก็จะง่ายขึ้นในการจัดการพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อถามว่าในส่วนท่าทีของ ฝั่งประเทศกัมพูชาที่ผ่านมา เหมือนว่าจะไม่มีท่าทีจะเจรจากับไทยเราเลยนั้น รู้สึกลำบากใจหรือไม่ พลเรือเอก จิรพล บอกว่า ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำงาน จะเป็นอย่างไรเรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว  เขาจะดีหรือไม่ดีอย่างไรเราก็ต้องพาไปสู่จุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้ให้ได้ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ

ด้าน พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ให้สัมภาษณ์ประเด็นบ่อนกาสิโนรุกล้ำพื้นที่ดินแดนไทย โดยบอกว่า กาสิโนที่เป็นประเด็นอยู่เป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างบริเวณด่านท่าเส้น อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้ให้ข้อมูลไปแล้วว่า จะต้องดำเนินการตามกติกากฎหมายระหว่างประเทศ คือ มีการประท้วงไปตั้งแต่ตรวจพบว่า กัมพูชาสร้างอาคารอยู่ในพื้นที่ ที่เราอ้างสิทธิทับซ้อน

จากการตรวจสอบอาคารที่สร้างปัจจุบันยังไม่มีการใช้งาน และไม่มีผู้อยู่อาศัย  ซึ่งเจตนารมณ์ของฝ่ายไทยคือ การผลักดันให้ฝ่ายตรงข้ามที่รุกล้ำเข้ามายังเขตแดนอธิปไตยของไทยในพื้นที่อ้างสิทธิให้ออกไปจากพื้นที่ทั้งหมด โดยขณะนี้ทั้ง 17 จุด และกาสิโน ไม่ปรากฏว่า มีการเข้าใช้ประโยชน์ ทั้งฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน 

ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้เนื่องจากเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน เราจะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการเจรจารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่แค่กาสิโน แต่รวมไปถึงคูเลต และฐานปฏิบัติการของฝั่งตรงข้ามทั้งหมด จะต้องปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิม ซึ่งจากการพูดคุยท่าทีของฝั่งกัมพูชาก็มีการตอบรับในขั้นต้นซึ่งก็เข้าใจว่า ตามระบบของกัมพูชาจะต้องดำเนินการตั้งแต่ทหารระดับพื้นที่รายงานไปตามชั้นภูมิภาค ก่อนจะรายงานกลับไปที่พนมเปญ ซึ่งในวันนี้กองทัพเรือรวมถึง ซึ่งวันนี้ทางกองทัพเรือ และ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี ตราด หรือ กปช.จต.ก็ได้ติดตามทวงถามอย่างใกล้ชิดว่า ฝั่งกัมพูชาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรบ้าง แต่ยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีกำหนดระยะเวลา ว่าจะต้องทำการรื้อถอน และผลักดันให้กลับไปสู่สภาพเดิมเมื่อไหร่ ซึ่งทางฝั่งไทยไม่อยากพูดคำว่า กดดัน แต่จะใช้ช่องทางเจรจาดำเนินการให้เป็นไปตามกติกา

เมื่อถามว่า ฝั่งไทยมีโอกาสจะทุบสิ่งปลูกสร้างที่กัมพูชารุกล้ำได้หรือไม่ พลเรือตรี ปารัช บอกว่าฝั่งกัมพูชาเป็นผู้ดำเนินการสร้างก็ต้องเป็นฝ่ายรื้อถอน และปรับให้อยู่ในสภาพเดิมเนื่องจากพื้นที่นั้นเป็นอธิปไตยของไทย แต่ถ้ายังดื้อดึงไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามที่พูดคุยตกลงกันไว้ ไทยก็อาจจะมีการยกระดับต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์