มทภ.2 มองโอกาสปะทะรอบใหม่ ขึ้นอยู่สถานการณ์ เหตุ จ.สระแก้ว-กปจ.ชต. ส่งผล ทภ.2

มทภ.2 ชี้ ชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะรอบ2 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มอง เหตุพื้นที่สระแก้ว-กปจ.ชต.เชื่อมต่อ ทภ.2 เส้นเขตแดนเดียวกัน
23 ก.ย.เวลา 08.15 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2
กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา(RBC) ว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ให้รือกันภายใน3สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ และความจริงใจ ของทางกัมพูชาว่าเป็นอย่างไร
มทภ.2 ย้ำว่า สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง ของกองทัพภาคที่1 บ้านหนองจาน และบ้านหนอมหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี- ตราด(กปจ.ชต.) ส่งผลต่อ ฟื้นที่ของ กองทัพภาคที่2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนประเทศเดียวกัน พื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเป็นนโยบายเดียวกัน และมีข้อระมัดระวังร่วมกัน และยอมรับว่าการทำงานต่อจากนี้ของกองทัพในการ ปกป้องอธิปไตย
ชายแดนไทย-กัมพูชา จะราบรื่นขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ท่านก็สนับสนุนอยู่แล้ว พร้อมทั้งย้ำว่าทหารทำตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง และผลประโยชน์ของประเทศชาติ
พร้อมทั้งย้ำว่าไม่ห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ แม้ใกล้เกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลืออาจมีบ้าง เล็กน้อย หรือพื้นที่ไหนที่ยังไม่เรียบร้อย และเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่2 คนใหม่ที่จะต้องดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่าประชาชนมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีเหตุปะทะรอบที่สอง พลโทบุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของสถานการณ์ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นเพื่อ ประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อปกป้องอธิปไตย และย้ำว่าถ้ามันจะเกิด ถ้าไม่เกิดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตามห้วงเวลา
เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของกองทัพครั้งที่สอง ผลโทรบุญสิน กล่าวว่า ไม่มีความร่วมมือ เพราะเขาวางเอง แล้วจะมาเก็บทำไม ความเป็นภัยคุกคามของทหาร ในพื้นที่กองทัพภาคที่2 ซึ่งจะประสานกับคณะอนุกรรมการออสตาวา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบ แต่ก็ยอมรับว่าขัดกันอยู่ แต่มองว่ายาก
จากนั้น พลโทบุญสิน รับมอบสิ่งของ จากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน เพื่อนำไปช่วยเหลือทหารที่ปฏิบัติ ภารกิจสนามที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
พลโทบุญสิน ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดจนถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 30 ก.ย. 68
ส่วนสถานการณ์ ชายแดนตอนนี้ยังคงพบการละเมิดหยุดยิงของกัมพูชา ทั้งเรื่องการยั่วยุ บินโดรน วางทุ่นระเบิดล้ำเขตแดน ซึ่งยังคงดำเนินการเก็บสถิติตลอดเวลา
ส่วนแนวทางการตอบโต้ นอกจากการยื่นหนังสือประท้วง ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตามสภาพแวดล้อม ตามห่วงเวลา
เช่นเดียวกับพื้นที่ปราสาทตาควายที่ฝ่ายกัมพูชายังคงอยู่ในตัวปราสาท ซึ่งทหารไทยเกาะอยู่ตามขอบปราสาทฯ พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่หากสภาพแวดล้อมเอื้อ พร้อมกับทำการประท้วงเพราะยืนยันว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นของไทย
ส่วนความเห็นของชาวบ้านในพื้นที่มีความเห็นว่าอยากจะให้ดำเนินการตอบโต้หรือปะทะครั้งที่สอง ส่วนนี้ก็เป็นความคิดของคนในพื้นที่ แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปตาม สภาพแวดล้อมและสถานการณ์
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าผลงานที่เราได้ทำหากคิดเป็นคะแนน 100 คะแนนเต็ม แม่ทัพภาคสองให้คะแนนตนเองเท่าไหร่
แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า ไม่ทราบครับ นักเรียนทำข้อสอบให้คะแนนตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาจารย์เป็นผู้ให้คะแนน แต่แล้วใครคืออาจารย์ผมก็ไม่ทราบ
แต่ถึงอย่างไรเราถือว่าเป็นโอกาสได้ช่วยเหลือประเทศชาติโดยหน้าที่ทหารอยู่แล้วซึ่งทำมาตั้งแต่เรียนจบมาแล้ว และเราก็ทำต่ออีก เพื่อให้พี่น้องคนไทยได้รับรู้ว่าเราทำถูกต้องแล้วในการดูแลประเทศชาติ
ทั้งนี้ การส่งธงแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า มั่นใจว่า แม่ทัพคนใหม่มีความหนักแน่น ความรับผิดชอบที่ผู้บังคับบัญชามอบให้เขาก็ทำเหมือนเดิมเหมือนที่ผมทำ เมื่อถึงเวลาตัดสินใจก็ต้องทำมั่นใจในฝีมือ
ต่อมาในเวลา 10.00น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุม หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เพื่อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และชายแดนไทย-เมียนมา สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในช่วงรอยต่อการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญซึ่งจะมีผล1ต.ค.นี้






