2 ตัวแทนรัฐสภาไทย กังวลกัมพูชาใช้เวที AIPA ดิสเครดิตไทย

2 ตัวแทนรัฐสภาไทย กังวล 'กัมพูชา' ใช้เวที AIPA ดิสเครดิต ลั่นพร้อมแจง ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง 'โรม' จ่อผลักดัน 2 วาระสำคัญ 'ปราบแก๊งคอลฯ-พัฒนากฎหมาย'
KEY
POINTS
- ตัวแทนรัฐสภาไทย แสดงความกังวลว่ากัมพูชาจะใช้เวทีประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย
- นายรังสิมันต์ โรม ระบุว่ากัมพูชามีความพยายามผลักดันวาระและให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่ประเทศผู้สังเกตการณ์
- ฝ่ายไทยได้เตรียมความพร้อมและชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้ง
- ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มีรายงานว่าคณะผู้แทนจากกัมพูชาได้เข้ามาแสดงพฤติกรรมส่งเสียงรบกวน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายเอกชัย เรืองรัตน์ สว. ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างแถลงการณ์ร่วม AIPA ให้สัมภาษณ์ถึงการยกร่างรายงานคณะกรรมการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสตรีสมัชชารัฐสภาอาเซียน ด้านกิจการ AIPA ว่าภาพรวมอากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวยอมรับว่า ไทยมีความกังวลว่ากัมพูชาจะมีการใช้โอกาสผลักดันวาระอะไรขึ้นมาหรือไม่ พบว่า มีความพยายามผลักดันในหลายวาระ ได้ทราบว่ามีความพยายาม ในการที่จะแชร์เรื่องราวของกัมพูชาให้กับประเทศผู้สังเกต เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง แต่ถือว่าโชคดีที่เราได้เตรียมความพร้อม ทั้ง สส. สว. ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้ง ทั้งนี้การประชุม AIPA เป็นที่น่าสังเกตว่ากัมพูชาพยายามใช้เวทีนี้ในการดิสเครดิตประเทศไทย และเชื่อว่าจะมีอีกในหลายเวที
นายรังสิมันต์ เชื่อว่า รัฐสภาไทยจะมีการขับเคลื่อนใน 2 ระยะ และหนึ่งในวาระที่อยากผลักดันคือการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และ สิทธิมนุษยชน ไม่ทราบว่าจะได้รับการตอบรับมากแค่ไหน ในขณะที่ระยะยาวนั้นยอมรับว่า กรอบของ AIPA ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนขนาดนั้น แต่เชื่อว่าจะนำไปสู่การพัฒนารัฐสภาและกฎหมายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะดูว่ามีกฎหมายฉบับไหนที่ยังไม่ได้มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งที่จะต้องแก้ไข
ส่วนนายเอกชัย กล่าวว่า รัฐสภาอาเซียน หลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนในทุกด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดัน Green Economy และ Blue Economy รวมถึงเรื่องคาร์บอนและพลังงานที่ยั่งยืน และด้านสังคมที่จะมีการผลักดันเรื่องการฟอกเงิน อาชญากรรมข้ามชาติและคอลเซ็นเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พบว่ามีกลุ่มจากคณะผู้แทนกัมพูชา เดินมาจากด้านหลังกว่า 10 คน และเมื่อเดินมาถึงจุดที่สัมภาษณ์ มีการพยายามส่งเสียงรบกวน โดยการไอหลายครั้ง และมีหยุดการขากเสลดเสียงดัง และยืนรวมกลุ่มจนกระทั่งนายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น







