'ปชน.' ตั้ง4โจทย์ สอบ 'รัฐบาล-อนุทิน' ประเดิมในเวทีแถลงนโยบาย

'ปชน.' ตั้ง4โจทย์ สอบ  'รัฐบาล-อนุทิน' ประเดิมในเวทีแถลงนโยบาย

"พริษฐ์" ตั้งทีมชำแหละนโยบายรัฐบาล-อนุทิน พร้อมตั้ง4โจทย์ตรวจสอบ ประเดิมเวทีแรก วันแถลงนโยบาย ย้ำ "ปชน." ไม่อุ้มใครทั้งนั้น

ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ว่า พรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้านจะเริ่มต้นตรวจสอบรัฐบาลเวทีแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นเวทีแรก โดยพรรคได้ตั้งทีม และเตรียมผู้อภิปรายในระดับหนึ่งแล้ว แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ 

1. การตรวจสอบและติดตามการรักษาสัญญา ตามเงื่อนไขของข้อตกลงทางการเมือง  และตรวจสอบกรอบเวลาการทำงานของรัฐบาลตามเงื่อนไข 4 เดือน รวมถึงรายละเอียดแก้ไขรัฐธรรมนูญ  

2. เดินหน้าตรวจสอบประเด็นที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ทั้งกรณีฮั้วสว. และที่ดินเขากระโดง ซึ่งขณะนี้มีทีมที่ถูกตั้งขึ้นมานำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมอภิปรายในเรื่องดังกล่าว

3. ตรวจสอบนโยบายเฉพาะหน้าที่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะผลักดัน ทำให้คุณภาพชีวิตและปากท้องของประชาชนดีขึ้น ทั้งเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างโครงการคนละครึ่ง รวมไปถึงการป้องกันไม่ให้มีการใช้งบประมาณปี 69 เพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง หรือตนเอง ที่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและประชาชน

และ 4. ตรวจสอบความเหมาะสมของรัฐมนตรีที่ถูกแต่งตั้ง เพราะสังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องกัญชาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในหมวดหมู่ที่ 2 ที่สังคมตั้งข้อครหา นอกจากเรื่องเขากระโดงกับฮั้วสว.แล้ว จะมีรายละเอียดถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ทั้งจุดยืนเรื่องนโยบายกัญชาและคดีการเมือง ซึ่งภายหลังจากนายอนุทิน เป็นนายกฯ หลายคนมีความกังวลเพราะจะเห็นว่ามีประชาชนหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับการประกันตัว รวมถึงการดำเนินคดีและจำคุกที่มีโทษสูง 10-20 ปี

เมื่อถามว่าให้คะแนนครม. ชุดใหม่เท่าใด นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ให้ตัวเลข เพราะท้ายที่สุดคนที่ให้ตัวเลขได้ดีที่สุดคือประชาชน  ทั้งนี้พรรคประชาชนจะเน้นการตรวจสอบรัฐบาลของนายอนุทิน เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ ถึงความจริงใจของพรรคประชาชน

"พรรคประชาชนไม่ได้อุ้มใครทั้งนั้น และจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม สิ่งที่ต่างไป คือ ครม.ของนายอนุทิน มีเสียงในสภาน้อยกว่าครม.ชุดก่อน ดังนั้น หากพรรคฝ่ายค้านแม้จะมีความเห็นที่ต่างกันในบางประเด็น แต่ถ้าจุดที่เรามีร่วมกันในการตรวจสอบรัฐบาล จะทำให้ฝ่ายค้านมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเรื่องของกฎหมายในสภามีการพิจารณากฎหมายหลายฉบับในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มาจากพรรคประชาชน หรือพรรคอื่น ที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลในเวลานี้เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากการที่เรามีรัฐบาลเสียงข้างน้อย" นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงเรื่องความกังวลว่าจะมีการแปลงร่างจากเสียงรัฐบาลข้างน้อย ไปเป็นเสียงข้างมาก นายพริษฐ์ กล่าวว่า จากตัวเลขคณิตศาสตร์ ถ้าพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย สามารถรักษาความเป็นเอกภาพของสส.พรรคตนเองได้ เอาแค่สองพรรครวมกันเป็น 280 เสียง หรือหากบวกพรรคประชาชาติอีก 10 เสียง ได้ประมาณ 290 เสียง บวกลบคูณหารแล้วรัฐบาลรวมกันได้มากสุดแค่ 210-220 เสียง ดังนั้น ตราบใดที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ของตนเอง ในการรักษาเอกภาพของสส. ตนเองได้เราไม่มีความกังวล

เมื่อถามว่าพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับนิติสงครามมาตลอดแต่เมื่อดูรายชื่อครม. ชุดใหม่แล้ว ก็มีคนที่เป็นสายล่อฟ้ารวมถึงอาจจะมีการยื่นองค์กรอิสระ เพื่อตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติ นายพริษฐ์ กล่าวว่า จุดยืนพรรคประชาชนเหมือนเดิมคือตรวจสอบรัฐบาลก่อน ส่วนการใช้องค์กรอิสระตรวจสอบ จะเป็นกรณีของการทำทุจริตที่มีคำนิยามชัดเจน ส่วนการใช้มาตรฐานจริยธรรมนั้น ขอเห็นต่างเพราะเป็นประเด็นที่ต้องใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจได้ ซึ่งเป็นจุดยืนที่เรามีมาตั้งแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และเป็นจุดยืนเดิมที่เราจะใช้ในการตรวจสอบทุกรัฐบาล ไม่ว่าหน้าตานายกฯ หรือครม. เป็นอย่างไร