'ภาคประชาชน' ไม่เสนอ แก้รธน. ประกบ รัฐสภา หวั่นทำให้ช้า

"ยิ่งชีพ" เผยภาคประชาชน ไม่ยื่นร่างแก้รธน. ประกบ "สส." หวั่นทำให้ช้ากระทบข้อตกลงทางการเมือง พร้อมเรียกร้องให้ "รัฐบาลใหม่" ประกาศไทม์ไลน์แก้รธน.ให้ชัด
ที่รัฐสภา นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองเตรียมยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 โดยเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ว่า เราต้องการให้มีผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือมาจากกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ถูกแต่งตั้งหรือเลือกจากคนกลุ่มเดียว หรืออำนาจทางการเมือง หรือฝักใฝ่การเมืองเพียงบางฝ่ายเท่านั้น หากพรรคการเมืองเสนอร่างแก้ไขที่เราดูแล้วว่าไม่ได้มีระบบการได้มาซึ่งผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่รับได้ เราก็อยากเสนอร่างอื่นเข้าแข่ง ทั้งนี้กระบวนการเสนอร่างของภาคประชาชนโดยปกติแล้วใช้เวลาพอสมควร ต้องเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อ และรายชื่อต้องตรวจสอบอย่างเร็วประมาณ 1 เดือน ถ้าร่างของภาคประชาชนเป็นเหตุให้สภาฯ ต้องรอ เพื่อพิจารณาประกบจะทำให้ช้า และกระทบกับข้อตกลงของการจัดตั้งรัฐบาลได้
"เราจึงไม่ได้คาดหวังให้รัฐสภาต้องรอ หากดูกระบวนการแล้วมีความพยายามทำให้ไม่ทัน ไม่เร่ง และเวลาเหลือพอ รวมถึงโมเดลของพรรคการเมืองที่เสนอไม่ตอบโจทย์ จึงจำเป็นต้องเชิญชวนประชาชนเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมาย" นายยิ่งชีพ กล่าว
เมื่อถามถึงโมเดล สสร.ของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยจะทำให้เปิดช่องคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญในครั้งต่อไป มีความกังวลหรือไม่นั้น นายยิ่งชีพ กล่าวว่าโมเดลของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยเปิดเผยต่อสาธารณะ ถือว่ายังเป็นการรับฟังความคิดเห็น ยังไม่ใช่ฉบับทางการ ทั้งนี้ขอท้วงติงว่าการเสนอโมเดลดังกล่าวเร็วเกินไป เพราะเรายังไม่เห็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม แต่เหมือนทั้ง2พรรคยอมรับไปแล้วว่าไม่เลือกตั้งโดยตรงก็ได้
เมื่อถามถึงความไม่ชัดเจนของพรรคภูมิใจไทยต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นายยิ่งชีพ กล่าวว่า มีความกังวลมาก เมื่อดูจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับย่อและการที่พรรคภูมิใจไทยยังไม่ยืนยันอะไร กังวลว่าจะมีการกำหนดว่าให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญมาจากสมาชิกรัฐสภา ที่หมายถึง สส.และ สว. ซึ่งต่อให้มีสัดส่วนเท่ากันไอลอว์ยืนยันไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเสนอ โดยเฉพาะ สว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และถูกตั้งข้อสังเกตว่าถูกครอบงำ อาจสะท้อนแนวทางว่าทำอะไรการคิดเหมือนกัน อย่างน้อย สว.150 เชื่อว่าฝ่ายการเมืองฝ่ายหนึ่งสามารถควบคุมผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้
เมื่อถามว่าหากโมเดล สสร. มีลักษณะเหมือนกับตอนร่างรัฐธรรมนูญปี 2539 นายยิ่งชีพกล่าวว่า เป็นความพยายามที่ดีแต่ยังดีไม่พอ เพราะปี 2539 ให้ผู้ที่ต้องการเป็น สสร. สมัครเข้ามาเอง และให้สมาชิกรัฐสภาเลือกภายหลัง ซึ่งการให้เลือกตนเอง มีบทเรียนจากการยกร่างปี 2567 ว่าระบบดังกล่าวใครพวกมากก็ลากกันไป ต่างคนจะเกณคนของตัวเองไปสมัครให้เยอะที่สุด
ขณะที่ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนจากไอลอว์ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลออกแบบไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญให้รอบคอบ เพื่อให้ทันต่อการยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา รวมถึงวันครบกำหนดวันที่จะทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปได้







