ด่วน! ศาลสั่งคุก 'เจ๋ง ดอกจิก' 6 ปี 'ศรีสุวรรณ-พวก' 4 ปี คดีรีดทรัพย์

ด่วน! ศาลสั่งคุก 'เจ๋ง ดอกจิก' 6 ปี 'ศรีสุวรรณ-พวก' 4 ปี คดีรีดทรัพย์

ด่วน! ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก 6 ปี 'เจ๋ง ดอกจิก' ส่วน 'ศรีสุวรรณ' กับพวกโดน 4 ปีฐานสนับสนุน คดีเรียกรับทรัพย์สินเป็นเงิน 1.5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมการข้าว

KEY

POINTS

  • ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" เป็นเวลา 6 ปี
  • นายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมพวกอีก 3 คน ถูกตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด
  • คดีดังกล่าวเกิดจากการร่วมกันข่มขู่เรียกรับเงิน 1.5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการไม่ยื่นเรื่องร้องเรียนทุจริต

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาคดีกล่าวหา นายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” พร้อมพวกรวม 5 คน ในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว

ล่าสุด ศาลมีคำสั่งพิพากษา จำคุก นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก 6 ปี ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วน นายศรีสุวรรณ พร้อมพวกโดนคนละ 4 ปี ฐานสนับสนุน

ขณะนี้จำเลยอยู่ระหว่างยื่นเรื่อง ขอประกันตัวในชั้นศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก “ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์” อธิบดีกรมการข้าว ว่าถูก ศรีสุวรรณ พร้อมด้วย “ยศวริศ ชูกล่อม” หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นอดีตคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี และ “พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์” อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2567 อธิบดีกรมการข้าวเข้าแจ้งความต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาเรียกรับเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริตที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดในเวลาต่อมา

โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับนายยศวริศ ชูกล่อม ในฐานะ “เจ้าพนักงานของรัฐ” รวม 6 ข้อหาเช่น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมผู้ต้องหาอีก 3 คนคือ น.ส.พิมณัฏฐา นายเอกลักษณ์ และ น.ส.ณพัชญ์ปภา ถูกดำเนินคดีในฐาน “ร่วมกันสนับสนุน” การกระทำความผิดของเจ้าพนักงานรัฐ

หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น คณะพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องนำตัวไปฝากขังต่อศาล โดยให้มารายงานตัวตามกำหนดการใหม่