จุดเปลี่ยน‘รวมไทยสร้างชาติ’ โดดเดี่ยวหัวหน้า ทีมเลขาฯทิ้งพรรค

เมื่อสัญญาณชัดเจนแล้วว่า“ทีมเลขาฯขิง”เตรียมมูฟออนจาก“รวมไทยสร้างชาติ” ฝั่ง“หัวหน้าพี” จะสามารถรั้ง“ขุนพลรทสช.” ให้อยู่ร่วมค่ายเดียวกัน เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งรอบหน้าได้มากน้อยเพียงใด
KEY
POINTS
- พรรครวมไทยสร้างชาติเกิดความแตกแยกภายในเป็น 3 กลุ่ม หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวทางการเมืองที่แตกต่างกัน
- ความขัดแย้งหลักเกิดจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ต้องการสนับสนุนขั้วเพื่อไทย สวนทางกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ที่ต้องการรักษาจุดยืนอนุรักษนิยม
- ข้อเสนอให้ปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคเพื่อแก้ปัญหาถูกปฏิเสธโดยนายพีระพันธุ์ ทำให้ทีมของนายเอกนัฏต้องทบทวนบทบาทและอนาคตทางการเมือง
- มีสัญญาณว่าทีมเลขาธิการพรรคเตรียมย้ายออก โดยเครือข่ายของนายชุมพล จุลใส พันธมิตรคนสำคัญของนายเอกนัฏ เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ภายหลังการโหวต อนุทิน ชาญวีรกูล จากภูมิใจไทย นั่งนายกรัฐมนตรี กลุ่ม-ก๊วนภายในพรรค แตกออกเป็น “3 กลุ่ม” อย่างชัดเจน
“กลุ่มหัวหน้าพี” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. โหวตงดออกเสียง เนื่องจาก “พีระพันธุ์” ต้องการสนับสนุนรัฐบาลที่อยู่ใน “ขั้วเพื่อไทย” มากกว่าการพลิกขั้ว โดยมีการกดดันให้ออกเป็นมติพรรค เพื่อบีบ สส. แต่มีเสียงคัดค้านจาก“กลุ่ม สส.”ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ “หัวหน้าพี”
“กลุ่มเลขาฯขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. โหวตสนับสนุน “อนุทิน” เพื่อขอย้ำจุดยืน “อนุรักษนิยม” เพราะเหตุผลหลักที่ “แพทองธาร ชินวัตร” หลุดจากเก้าอี้นายกฯ มาจากความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา เมื่อเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง หากพรรคอนุรักษนิยมยังหนุนต่อ อาจจะอธิบายต่อฐานเสียงยาก
“กลุ่มสุชาติ” สุชาติ ชมกลิ่น อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. โหวตสนับสนุน “อนุทิน” พร้อมเปิดตัวเป็นแนวร่วม จึงได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ก่อนจะลาออกจาก สส. เพื่อหลบข้อครหาการนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ต้องผ่านความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรค ซึ่งยากที่จะฝ่าด่าน “หัวหน้าพี” เจ้าตัวจึงต้องลาออกเพื่อความเป็นอิสระ
ทั้ง “3 กลุ่ม” มีแนวทางที่แตกต่างกัน หากย้อนไปก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า “สส. รทสช.” ไม่พอใจการทำงานของ “พีระพันธุ์” จนมีการกดดันให้ลงจากหอคอยงาช้างมาดูแล “สส.” แต่คนใกล้ตัวกลับทำให้ความสัมพันธ์ของ “หัวหน้าพี” กับ “ลูกพรรค” ห่างเหินกันมากขึ้น ทำให้บทบาทของ “เลขาฯขิง” ต้องเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ต้องคอยประสาน “สส.” เกือบทุกคน
จนกระทั่งเกิดฉากรบ “นายทุนพรรค” ทำให้ “พีระพันธุ์ - เอกนัฏ” ต้องจับมือ ช่วยกันต้านไม่ให้ “กลุ่มนายทุน” เคลื่อนกำลังผ่าน “กลุ่มสุชาติ” เพื่อสร้างแรงต่อรองทางการเมือง ทั้งสองขั้วจึงเปิดหน้ารบกัน จนต้องแบ่งจำนวน สส.แบบหารครึ่ง
ขณะเดียวกัน แรงต้านการทำงานของ “พีระพันธุ์” ที่ลอยตัวเหนือปัญหา ยังคงดำรงอยู่ จนมาถึงวันแตกหัก เมื่อคลิปเสียงสนทนา “แพทองธาร” กับ “ฮุน เซน” หลุดออกมา “รทสช.”จึงเสียงแตก จะไปต่อกับ “แพทองธาร” หรือถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
โดย “พีระพันธุ์” ยืนยันกับ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะสนับสนุน “แพทองธาร” ต่อไป คอนเฟิร์มกันว่า แม้ต้องโหวต “ชัยเกษม นิติสิริ” ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อสมการทางการเมืองเปลี่ยน “ขั้วน้ำเงิน” ปิดจ็อบ - ปิดดีล จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ “พีระพันธุ์” ยังต้องการไปต่อกับ “ทักษิณ” จึงมีมติให้งดออกเสียง ขณะที่ฝั่ง “เอกนัฏ” ต้องการรักษาจุดยืนอนุรักษนิยม จึงเลือกโหวตสนับสนุน “อนุทิน” โดยไม่ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี
มีกระแสข่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “บิ๊กเนม รทสช.” ปิดห้องพูดคุยถึงทิศทางของพรรคอย่างเคร่งเครียด โดยมีข้อเสนอให้เปลี่ยน “กรรมการบริหาร” เพื่อขับเคลื่อนพรรคในแนวทางใหม่ กลับมาย้ำจุดยืน “อนุรักษ์” เพื่อรักษาและเพิ่มแต้มการเมือง
ทว่า “พีระพันธุ์” ย้ำคำเดิมว่า ไม่เปลี่ยน เพราะเกรงว่าจะกระทบกับ “คนของตัวเอง” เนื่องจากสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรคมีเพียง 8 คน เป็นสายตรงของ “หัวหน้าพี” 5 คน สายตรง “เอกนัฏ” 2 คน และอีก 1 คน อยู่สายตรงของ “นายทุน”
เมื่อการปรับเปลี่ยนโครงการสร้างพรรค รทสช. ไม่สามารถขยับได้ โดย “พีระพันธุ์” ยืนยันจะปักหลักสู้ในแนวทางของตัวเอง ทำให้ “ทีมเอกนัฏ” ต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “ทีมลูกหมี” ชุมพล จุลใส ผู้มากบารมี จ.ชุมพร เตรียมส่งเครือข่าย “กลุ่มชุมพร” เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันนี้
หาก “ลูกหมี” ขยับ ต้องจับตาว่า “เอกนัฏ” จะขยับตามหรือไม่ เพราะความสัมพันธ์ของ “เอกนัฏ - ชุมพล” เหนียวแน่นกันมาตลอด ร่วมงานกันมาตั้งแต่ “พรรคประชาธิปัตย์”
เมื่อสัญญาณชัดเจนแล้วว่า“ทีมเลขาฯขิง”เตรียมมูฟออนจาก“รวมไทยสร้างชาติ” ฝั่ง“หัวหน้าพี” จะสามารถรั้ง“ขุนพลรทสช.” ให้อยู่ร่วมค่ายเดียวกัน เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งรอบหน้าได้มากน้อยเพียงใด





